8/25/2555

สถานที่ท่องเที่ยว


  • ฟ้าใส หัวใจสดชื่น สถานที่ท่องเที่ยวสวยงามพระตำหนักดอยตุง

    Posted: 2011-03-11 04:06:14 UTC+07:00
    เข้าสู่วันที่สองกับสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายวันนี้ผมมีแผนเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ สามแห่งด้วยกันคือ แม่สาย พระตำหนักดอยตุง พระธาตุดอยตุง และชมสวนในมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งวันนี้ขอหยิบยกสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมประทับใจในความงามและสดชื่นตามธรรมชาติมาเล่าให้ฟังกัน

    พระตำหนักดอยตุง สถานที่ท่องเที่ยว

    วันที่สองของการเดินทางเริ่มต้นด้วยการเดินทางข้ามชายแดนแม่สายไปสถานที่ท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยสินค้าราคาถูกในฝั่งพม่า กว่าจะเดินท่องเที่ยวและซื้อของกันครบก็ประมาณบ่ายโมงแล้ว ผมจึงเดินทางมาที่พระตำหนักดอยตุงทางขึ้นเขาค่อนข้างจะคดเคี้ยวพอสมควรกว่าจะถึงก็ราว ๆ บ่ายสองโมงครึ่ง

    ถ้าเป็นสถานที่ในกรุงเทพเวลาบ่ายสองโมงนี่ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่แดดแรงมาก แต่บนพระตำหนักดอยตุงนี้อากาศแสนจะสดชื่นเย็นสบาย ฟ้าใส ๆ ก็กำลังเปิดพอดี มองฟ้าไปใกล ๆ แล้วรู้สึกมีพลังขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ธรรมชาติที่สวยงามนี่สามารถทำให้เรามีพลังในการขับเคลื่อนชีวิตจริง ๆ ครับ

    สถานที่ท่องเที่ยว จุดชมวิวบนพระตำหนักดอยตุง

    ผมเก็บภาพสวยงามที่จุดชมวิว และเดินทางขึ้นไปบนพระตำหนักเก็บภาพถ่ายภายนอกพระตำหนักอยู่สักพักเจ้าหน้าที่ก็เรียกรวมนักท่องเที่ยวที่กระจัดกระจายอยู่ในบริเวณนั้นเพื่อให้เข้าชมภายในพระตำหนัก ก่อนเข้าพระตำหนักก็มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับที่มาของการปลูกสร้างพระตำหนักดอยตุงแห่งนี้

    พระตำหนักดอยตุงนั้นถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปีพุทธศักราช 2530 โดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของสมเด็จย่าออกแบบให้มีลักษณะสถาปัตยกรรม แบบล้านนากับบ้านพื้นเมืองของสวิตเซอร์แลนด์ จุดที่สร้างนั้นอยู่บนไหล่เนินสามารถมองมองเห็นทิวทัศน์ในระยะไกลได้อย่างสวยงาม โครงสร้างพระตำหนักเป็นพระตำหนักสองชั้นและมีชั้นลอย ชั้นบนแยกเป็นสี่ส่วนและเชื่อมต่อกันเป็นอาคารหลังเดียว มีกาแลกับไม้แกะสลักเป็นเชิงชายลายเมฆไหลอย่างอ่อนช้อยโดยรอบ ภายในตำหนักล้วนใช้ไม้สน และไม้ลังที่ใส่สินค้า เป็นเนื้อไม้สีอ่อนที่สวยงาม ภายในมีเพดานดาวบริเวณท้องพระโรง สลักขึ้นจากไม้สนภูเขา เป็นกลุ่มดาวต่างๆ ล้อมรอบระบบสุริยะจักวาล ส่วนบริเวณผนังเชิงบันได แกะสลักเป็นพยัญชนะไทย พร้อมภาพประกอบ ปัจจุบันภายหลังการสวรรคตของสมเด็จย่า พระตำหนักยังได้รับการอนุรักษ์ ไว้เป็นอย่างดี และบางครั้งที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงมีพระราชกรณียกิจที่จังหวัดเชียงราย ก็จะเสด็จมาประทับ ณ พระตำหนักแห่งนี้

    เมื่อวิทยากรบรรยายให้ความรู้เสร็จก็อนุญาตให้ถ่ายภาพจากบริเวณระเบียงไปทางด้านนอกของพระตำหนัก แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพด้านในพระตำหนักโดยเด็ดขาด ผมก็ยืนชมวิวและเก็บภาพสวย ๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จนเต็มอิ่มที่บริเวณระเบียงของพระตำหนักสักพักจึงกลับลงมาด้านล่างเพื่อเข้าชมสวนดอกไม้ที่สวนแม่ฟ้าหลวงซึ่งอยู่บริเวณด้านล่างของพระตำหนัก

    ผมเดินชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยถึงแม้จะต้องเดินขึ้น-ลงเนินเขาบ้าง เพราะดอกไม้สวยงามนานาชนิดในสวนแม่ฟ้าหลวงแห่งนี้ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินจนลืมความเหนื่อย ว่าแล้วก็เก็บภาพถ่ายมาฝากให้ชมกันด้วย

    สวนแม่ฟ้าหลวง สถานที่ท่องเที่ยว


    ในการท่องเที่ยวเชียงรายครั้งนี้ผมมีประทับใจสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มากครับ ด้วยบรรยากาศและความสวยงามที่หาสัมผัสได้ยากในสังคมเมือง จึงขอแนะนำว่าถ้าได้มาเที่ยวเชียงรายต้องแวะมาที่พระตำหนักดอยตุงให้ได้ ...สวัสดีครับ
  • สถานที่ท่องเที่ยวสัมผัสบรรยากาศแบบเมืองจีน เขาสก กุ้ยหลินเมืองไทย

    Posted: 2011-03-11 04:06:40 UTC+07:00
    การเดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่างๆ เป็นความฝันของใครหลายคน ซึ่งความชอบของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป บางคนชอบไปในที่มีแสง สี เสียง ผู้คนมากหน้าหลายตา ในขณะที่อีกหลายคนใช้เวลาในช่วงวันหยุดพักผ่อนในมุมสงบ เรียบง่าย

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวเขาสก

    หากคุณรักความสงบ แต่มีเวลาจำกัดเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แนะนำให้ลองมาสัมผัสบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวเมืองจีนในเมืองไทย (ไม่ต้องแปลกใจไป เราพูดไม่ผิด) ที่คุณจะได้พักผ่อนท่ามกลางสายน้ำอันเย็นสดชื่น พร้อมสูดกลิ่นหอมจากดอกไม้นานาพรรณที่รายรอบ แบบไม่ต้องควักกระเป๋าไปเที่ยวไกลถึงเมืองจีนจริงๆ เพราะวันนี้เราจะพามาสูดอากาศสดชื่นกัน ณ อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี รับรองว่าใครหลงใหลการเดินป่า หรือการล่องเรือชมวิว ถูกใจแน่นอน

    สถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนหนึ่งของป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ลักษณะของที่นี่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนสลับซับซ้อน มีหุบเขาลึก ร่องลำธาร ถ้ำ และน้ำตกมากมาย อุดมสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้หายากระดับโลกหลายชนิด เช่น ปาล์มหลังขาว หมากพระราหู กระพ้อสี่สิบ ฯลฯ และมีนกป่าอาศัยอยู่กว่า 155 ชนิด รายล้อมอยู่ใจกลางผืนป่าเขาสก มีสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นสุด คือ เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ซึ่งเกิดจากการกั้นลำคลองแสง จนเกิดทัศนียภาพของทะเลสาบขนาดใหญ่กว่า 1 แสนไร่ ที่นี่คุณจะได้สนุกกับการท่องเที่ยวทั้งทางบก และทางน้ำอย่างเต็มที่
    ไม่ว่าจะเป็น การเดินป่า ดูสารพันนกสวย หรือ เที่ยวถ้ำปะการัง ล้วนได้บรรยากาศภายใต้ป่าดงดิบอันเขียวชอุ่มภายใต้ขุนเขาสูงล้ำค้ำฟ้า ประดุจภูผาปราการ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของพืชพันธุ์เฉพาะถิ่นหลากหลายของแดนใต้ ผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่ามีกิจกรรมเดินเท้าเข้าชมน้ำตกต่างๆ อันเกิดจากลำน้ำในคลองสกไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม และพลาดไม่ได้กับการชมดอกบัวผิด ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่คุณจะหาชมได้มากกว่าที่อื่นๆ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวเขาสกมีชื่อเสียงในเรื่องของกิจกรรมท่องเที่ยวเดินป่าชมบัวผุดเป็นที่สุด
    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวเขาสก สถานที่ท่องเที่ยวภาคใต้


    เปลี่ยนบรรยากาศจากเดินเท้า มาเต็มอิ่มกับการพักผ่อนด้วยการล่องเรือชมวิว นอนล่องแพ ไปกับสายน้ำใส เห็นตัวปลาและเงาสะท้อนของต้นไม้สีเขียว บนพื้นที่ 500 ไร่ ของผืนน้ำอันกว้างใหญ่ด้วยความลึกของน้ำ ประกอบกับสีของตะไคร่น้ำเบื้องล่าง ทำให้สีน้ำในเขื่อนมีสีเข้มเหมือนสีมรกต คล้ายน้ำทะเล และที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่สุดเห็นจะเป็น บรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวเกินคำบรรยายบริเวณเหนือเขื่อนและอ่างเก็บน้ำของอุทยานที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ รวมทั้งภูเขาหินปูนรูปร่างต่างๆ แปลกตาที่อยู่ในเขื่อน ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้มาเยือนตะลึงกับสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา และเพราะท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบายของเขาสกแห่งนี้ คล้ายกับภูมิประเทศที่เมืองกุ้ยหลิน ประเทศจีน จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครๆ ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า ที่นี่คือ กุ้ยหลินเมืองไทย อย่างหาคำอื่นมาเปรียบเปรยไม่ได้ รับรองเลยว่าใครที่มีโอกาสได้ล่องเรือชมวิวเหนือเขื่อนรัชชประภาแห่งนี้แล้วก็ต้องไม่ลืมภาพแห่งความประทับใจแน่นอน

    ในฤดูร้อนหากใครอยากสัมผัสกับบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวแบบเมืองกุ้ยหลิน ชมดอกบัวผุด ขอแนะนำว่าลองเลือกทริป นั่งเรือชมวิว นอนแพเหนือเขื่อนรัชชประภา และการเดินป่าที่อุทยานแห่งชาติเขาสกแห่งนี้สักครั้ง แล้ววันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณจะพิเศษกว่าครั้งใดๆ


    ฤดูที่เหมาะสมกับการไปเที่ยว : ระหว่างเดือนธันวาคม - เมษายน
    การเดินทาง : จากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางหมายเลข 4 ไปราว 60 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่อำเภอบ้านตาขุน ตรงสู่เขื่อนรัชชประภา และอุทยานแห่งชาติเขาสก รวมระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร

    สอบถามรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท.ภาคใต้ เขต 5 โทร. 077 288 818-9
  • ไร่แม่ฟ้าหลวงสถานที่ท่องเที่ยวชมพันธุ์ไม้สวยงาม

    Posted: 2011-03-11 04:06:52 UTC+07:00
    บอกเล่าประสบการณ์การไปสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเมืองเชียงรายกันต่อ หลังจากออกจากสถานที่พักไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำเงี้ยวป้าสุขที่แสนจะอร่อยมาก ก็กลับมาเก็บรูปสวยงามตามมุมต่าง ๆ ของ Le Meridion เพื่อรอรถจากโรงแรมบริการไปส่งให้ชมอุทธยานศิลปวัฒนธรรมไร่แม่ฟ้าหลวงสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่มรื่นและมีพันธุ์ไม้สวยงามและหายากหลายชนิด นักท่องเที่ยวที่มาเชียงรายก็นิยมไปท่องเที่ยวชมพันธุ์ไม้ที่ไร่แห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย

    สถานที่ท่องเที่ยว หอคำ ไร่แม่ฟ้าหลวง สถานที่ท่องเที่ยว

    เมื่อไปถึงไร่แม่ฟ้าหลวงก็พบกับบรรยากาศในสถานที่ท่องเที่ยวที่แสนจะร่มรื่น และสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ต้องบอกว่าผมเองก็ไม่ได้สัมผัสบรรยากาศอย่างนี้มานานมากแล้วเพราะในกรุงเทพฯนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นบรรยากาศที่อบอ้าวและเต็มไปด้วยมลพิษ ได้สูดอากาศสดชื่นแบบนี้แล้วก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างมากจริง ๆ

    สถานที่ท่องเที่ยว หอคำ ไร่แม่ฟ้าหลวง สถานที่ท่องเที่ยว
    ไร่แม่ฟ้าหลวงแห่งนี้เป็นที่ดินที่สมเด็จย่าพระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์ซื้อไว้กว่า ๑๓ ไร่ เพื่อใช้เป็นสถานที่ทรงงานและอบรมเยาวชนจากถิ่นธุรกันดาร ในความดูแลของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ด้วยเหตุที่ทรงพบว่าชาวเขาตามจังหวัดชายแดนภาคเหนือมีความลำบากยากไร้ ต้องดิ้นรนทำมาหากินด้วยการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอยและปลูกฝิ่น และปัจจุบันได้ขยายพื้นที่ออกมาเป็น ๑๕๐ กว่าไร่ และได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาและอนุรักษ์ส่งเสริมวัฒนธรรมล้านนาและใช้ชื่อว่า อุทยานศิลปะและวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง

    ผมเดินเที่ยวไปเก็บรูปสวย ๆ ในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มาฝากอย่างเพลิดเพลิน พื้นที่ภายในไร่ก็ไม่กว้างนักสามารถเดินชมไปได้เรื่อย ๆ มีบริเวณที่เป็นลานกว้าง สระน้ำ พันธ์ไม้ดอกไม้ประดับ ต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีให้ชมย่างมากมาย เป็นสิ่งที่พระองค์ท่านได้ทรงเพียรสร้างเอาไว้ให้เป็นประโยชน์กับธรรมชาติอย่างมากมายมหาศาล

    เมื่อชมพันธ์ไม้จากปากทางเข้าไปได้ครึ่งไร่จนไปเกือบถึงอีกด้านก็พบกับ บ้านขนาดใหญ่เป็นบ้านแบบเมืองเหนือโบราณ มีเจ้าหน้าที่ดูแลเป็นอย่างดี สอบถามเจ้าหน้าที่จึงทราบว่า บ้านแห่งนี้เรียกว่า หอคำ (หอคำเป็นชื่อเรียกของสถานที่ประทับของคุ้มหรือที่อยู่ของเจ้าผู้ครองนครฝ่ายเหนือในสมัยอาณาจักรล้านนา) ภายในหอคำนี้มีการจัดแสดงศิลปะแบบล้านนา มีครื่องสัตตภัณฑ์หรือแท่นเชิงเทียนของซึ่งใช้ที่ตั้งถวายบูชาหน้าพระประธานในอุโบสถของวัดทางภาคเหนือ เมื่อวัดถูกรื้อลง เครื่องสัตตภัณฑ์ได้กระจัดกระจายไปตามที่ต่าง ๆ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จึงได้ซื้อ และได้รับบริจาคมารวบรวมเพื่ออนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา เครื่องสัตตภัณฑ์ทุกชิ้นที่จัดแสดงจะมีป้ายชื่อและแหล่งที่มากำกับ เช่น ช้างแก้ว สัตตภัณฑ์อย่างหริภุญไชย บัวร้อยดอก สัตตภัณฑ์อย่างเขมรัฐและสุคนธประทีป สัตตภัณฑ์อย่างนันทบุรี เครื่องสัตตภัณฑ์เหล่านี้จะมีการจุดเทียนในโอกาสสำคัญ ๆ เป็นประจำ

    สถานที่ท่องเที่ยว หอคำ ไร่แม่ฟ้าหลวง สถานที่ท่องเที่ยว

    นอกจากนี้ภายในก็ยังมีการจัดแสดงตุง และพระพุทธรูปไม้สักที่แกะสลักจากต้นไม้สักขนาดใหญ่ วัตถุโบราณเหล่านี้ได้รับการบริจาคจากวัดและเศรษฐีจากจังหวัดต่าง ๆ ทางภาคเหนือเช่น ลำพูน แพร่ น่าน ลำปาง เป็นต้น ภายในตำแหน่งใจกลางของหอคำมีพระพุทธรูปอยู่บนหอสูงอยู่องค์หนึ่งเกาะสลักจากไม้สัก มีชื่อว่า พระพ้าโต้ ซึ่งเรียกตามวิธีแกะสลักที่แกะด้วยมีดอีโต้เพียงเล่มเดียว เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิทางด้านสุขภาพ ซึ่งได้รับการถวายให้แด่สมเด็จย่าให้ทรงมีสุขภาพพลานามัยดี

    หลังจากชมหอคำเสร็จแล้วเราก็ลงจากเรือนมาพบกับลานกว้างมีพระบรมรูปของสมเด็จย่าทรงประทับอยู่ที่เนินสูงที่ลานใกล้ ๆ กับหอคำจึงแวะเก็บภาพและเดินชมไร่ด้านหลังต่อ จนกระทั่งชมไร่ที่สวยมาจนสุดทาง ก็พบกับร้านของฝากที่ตั้งอยู่ในไร่ จึงได้แวะเข้าไปดู ภายในนั้นมีสินค้าพื้นบ้านที่เหมาะเป็นของฝากมากมายเช่นหมวก ผ้าทอ เครื่องเงิน แก้วที่ระลึก โปสการ์ด หนังสือ และกระเป๋าเป็นต้น

    เลือกของฝากเสร็จรวมเวลาก็เดินชมสถานที่ท่องเที่ยวไร่แม่ฟ้าหลวงเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมง รถจากทางโรงแรมก็มารับพอดี เป็นการท่องเที่ยวที่เต็มอิ่มกับธรรมชาติอย่างมาก ทำให้รู้สึกอยากอยู่ที่เชียงรายเสียเลย แต่คงยังไม่ได้เพราะต้องกลับมาแข่งขัน SEO 2010 ให้จบเสียก่อน (ฮา)

    ในบทความต่อไปจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยยามค่ำคืนของเชียงรายให้ฟังกันต่อครับ สวัสดี
  • สถานที่ท่องเที่ยวทำบุญ วัดเก่าแก่เมืองพิษณุโลก

    Posted: 2011-03-11 04:07:02 UTC+07:00
    ต่อเนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวพระราชวังจันทน์ที่ได้แนะนำในตอนที่แล้ว ในวันเดียวกันกับที่ผมได้แวะที่พิษณุโลก ซึ่งถ้าขับรถจากสถานที่ท่องเที่ยวพระราชวังจันทน์ข้ามแม่น้ำน่านมาทางฝั่งตะวันออกของก็จะพบกับวัดที่มีความสำคัญมากในเมืองพิษณุโลก เป็นที่เคารพบูชาและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัดแห่งนี้ก็คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เมืองพิษณุโลก

    สถานที่ท่องเที่ยว วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

    สถานที่ท่องเที่ยวทำบุญวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารหรือชื่อเดิมคือวัดใหญ่ตามประวัติศาสตร์นั้นได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย ราว พ.ศ.1800 เป็นสถาปัตยกรรมแบบสุโขทัยแท้ แต่ก็ได้มีการบูรณซ่อมแซมบูรณะมาอย่างต่อเนื่องในหลายสมัยศิลปะจึงกลายเป็นแบบผสมกันระหว่างสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา และยุคปัจจุบัน

    สถานที่ท่องเที่ยว พระปรางค์ประธาน พระอัฏฐารส
    ใจกลางของวัดนั้นเป็นพระปรางค์ประธานซึ่งได้ถูกสร้างในสมัยของพระยาลิไทเพื่อเป็นหลักของวัด และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อก่อสร้างครั้งแรกนั้นพระปรางค์ประธานมีลักษณะเป็นบัวตูมตามสถาปัตยกรรมสมัยสุโขทัย แต่ต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถขึ้นไป ได้โปรดให้บูรณะพระปรางค์โดยดัดแปลงพระเจดีย์ ได้ให้เป็นรูปแบบพระปรางค์แบบขอมอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน

    ด้านหลังของวิหารเราจะเห็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติสูง 18 ศอกคือ พระอัฏฐารส ซึ่งเดิมนั้นถูกสร้างขึ้นให้อยู่ในพระวิหารใหญ่ แต่ภายหลังวิหารได้พังทลายลงจึงเห็นพระอัฏฐารสยืนปางห้ามญาติอยู่ภายนอกอย่างที่เห็นในรูปภาพ

    สถานที่ท่องเที่ยว พระพุทธชินราช
    ภายในพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราช เป็นพระปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ที่ซึ่งถือว่าเป็นงดงามที่สุดในประเทศไทย เป็นที่สักการระของชาวเมืองพิษณุโลก ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาชมและสักการบูชาพระพุทธชินราชเป็นจำนวนมาก และประมาณปลายเดือนมกราคมของทุกปี จะมีงานนมัสการพระพุทธชินราชในวันขึ้น 6 ค่ำ ถึงวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 3 เรียกว่า งานวัดใหญ่

    สถานที่ท่องเที่ยว ยกช้างเสี่ยงทาย
    สำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้เข้าไปสักการะพระพุทธชินราชที่ด้านในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้แล้วท่านที่ต้องการทำนายดวงชะตาภายในวิหารทางซ้ายมือจะมีพระบรมรูป สมเด็จพระสุพรรณกัลยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ ซึ่งประชาชนที่ใหว้สักการะพระพุทธชินราชแล้ว ก็จะมากราบไหว้ขอพรจากพระบรมรูป พร้อมทั้งยกช้างเสี่ยงทาย โดยการเสี่ยงทายจะสมหวังตามที่เราอธิฐานนั้นครั้งแรกจะต้องยกช้างขึ้นอย่างง่ายดายและครั้งที่สองยกช้างตัวเดียวกันวิธีเดียวกันถ้าคำอธิฐานเป็นจริงต่อให้ยกสุดแรงเกิดก็ไม่มีทางยกขึ้นได้ เรื่องเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อและศรัทธาซึ่งตัวผมเองได้พิสูจน์มากับตัวเองแล้วว่าไม่น่าเชื่อว่าสิ่งนี้ยังมีอยู่จริง

    เส้นทางสถานที่ท่องเที่ยวไปสักการะพระพุทธชินราช 
  • สถานที่ท่องเที่ยวชมความงามวิจิตรระดับโลก

    Posted: 2011-03-11 04:07:51 UTC+07:00
    ได้เวลาบ่ายอ่อนของวันที่สามในการเสาะหาและเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเมืองเชียงราย และคงจะพลาดไม่ได้กับการมาท่องเที่ยวที่เชียงรายกับสถานที่ท่องเที่ยวที่แสนจะงดงามวิจิตร เป็นสถาปัตยกรรมชั้นเอกของโลก นั่นคือ วัดร่องขุนที่หลายคนรู้จักชื่อกันดี

    สถานที่ท่องเที่ยว วัดร่องขุน

    แม้ว่านี่จะเป็นครั้งที่สองที่ผมได้มาเยือนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้แต่ทุกอย่างก็ดูแปลกตาไม่ซ้ำกับเดิมที่เคยมาในหลายปีก่อน ทุกอย่างมีความสมบูรณ์และงดงามวิจิตรและดูร่มรื่นมากขึ้น เพราะต้นไม้จากต้นเล็ก ก็เริ่มเติบใหญ่ตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป

    สถานที่ท่องเที่ยว วัดร่องขุน

    หลังจากที่ตอนเช้าได้เดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์อย่างวัดพระแก้ว วัดพระสิงห์ และไหว้อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช หลังอาหารเที่ยงผมก็ได้เดินทางมาถึงที่วัดร่องขุน แม้ว่าจะเป็นช่วงบ่ายแต่ว่าบรรยากาศภายในวัดยังร่มรื่นอากาศกำลังสบายไม่รู้สึกร้อนอบอ้าวแต่อย่างใด

    สถานที่ท่องเที่ยว วัดร่องขุน

    ผมถ่ายรูปสวยงามตามมุมต่าง ๆ อย่างที่ได้นำมาฝากให้ชมกัน ก็เข้าไปชมภาพวาดและปฏิมากรรมในหอศิลป์ผลงานที่สุดแสนจะวิจิตรและมีพลังอันเต็มเปี่ยมฝีมืออาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เดินชมอยู่เป็นชั่วโมงเลยทีเดียวครับเพราะผลงานแต่ละชิ้นของอาจารย์ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด และปฏิมากรรมชิ้นต่าง ๆ นอกจากจะมีความงดงาม ล้วนแฝงไปด้วยมุมมองและแง่คิด เหมือนกับคำพูดที่เรามักจะได้ยินอยู่เสมอว่า "มันมีจิตวิญญาณ" ซึ่งผมค่อนข้างเห็นด้วย เพราะผลงานของอาจารย์แต่ละชิ้นที่สร้างขึ้นมาไม่ได้เน้นให้มีความงามแล้วเหมือนกับมีการเติมชีวิตชีวาลงไปด้วย ชมแล้วรู้สึกได้ถึงสิ่งที่อาจารย์ต้องการจะบอกเล่า

    สถานที่ท่องเที่ยว วัดร่องขุน

    เดินชมหอศิลป์อยู่นานสองนาน แต่ก็เสียดายนิดหน่อยที่ไม่สามารถถ่ายรูปด้านในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มาให้ชมกันได้ เอาเป็นว่าของสวย ๆ งาม ๆ หาชมยากต้องไปชมด้วยตาตัวเองถึงที่ครับเอามาฝากกันไม่ได้

    สถานที่ท่องเที่ยว วัดร่องขุน

    ออกมาจากหอศิลป์เราก็เข้าไปไหว้พระที่อุโบสถ ซึ่งขณะที่ผมเดินทางไปนั้นยังอยู่ในช่วงปลูกสร้างและปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ และเมื่อได้กราบพระแล้วเราก็ออกมาซื้อของที่ระลึกติดไม้ติดมือมาฝากคนที่กรุงเทพฯ หลายชิ้นเลยทีเดียว สุดท้ายแนะนำว่าถ้ามาเชียงรายอย่าลืมแวะมาชมสถานที่ท่องเที่ยวเชียงรายที่แสนจะวิจิตรติดอันดับของโลก ซึ่งในอนาคตน่าจะได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหรรจรรย์แน่นอนครับ สวัสดี
  • กำเินิดแห่งศรัทธา สถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย

    Posted: 2011-03-11 04:08:01 UTC+07:00
    วันที่สามของการเดินทางท่องเที่ยวที่เชียงราย ได้เก็บเกี่ยวบรรยากาศและประสบการณ์ชีวิตตามสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมายในเมืองเชียงราย ในการท่องเที่ยวครั้งนี้มีโอกาสได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่ง สถานที่แห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานและถือเป็นกำเนิดความศรัทธาของคนไทยในปัจจุบัน

    สถานที่ท่องเที่ยว พระหยกเชียงราย
    สถานที่ท่องเที่ยวที่นำมาบอกเล่าประสบการณ์ในวันนี้คือ วัดพระแก้วเมืองเชียงราย ซึ่งเดิมนั้นใช้ชื่อว่าวัดป่าเยียะ ที่แปลว่าป่าไผ่ชนิดหนึ่ง แต่ต่อมามีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นทำให้พบพระแก้วมรกตที่พระเจดีย์หลังอุโบสถ ชาวเมืองเชียงรายจึงเรียกชื่อวัดว่า วัดพระแก้วและใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน

    เดินทางมาถึงสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์วัดพระแก้ว เชียงรายก็เข้าไปภายในวัด อาคารแรกที่พบทางซ้ายมือคือพระอุโบสถ(ดูรูปที่ 2) เป็นพระวิหารทรงเชียงแสน เมื่อเข้ามากราบพระภายในอุโบสถพบพระเจ้าล้านทอง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย พระพุทธรูปองค์นี้ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปในสกุลช่างศิลปปาละที่ใหญ่และสวยงามที่สุดในประเทศไทย

    กราบพระเสร็จแล้วเดินในสถานที่ท่องเที่ยวนี้มาทางด้านหลังของอุโบสถพบพระเจดีย์ เป็นเจดีย์เก่าแก่อายุหลายร้อยปี เจดีย์แห่งนี้นี่เองที่เป็นสถานที่พบพระแก้วมรกตพระคู่บ้านคู่เมืองของไทยในปัจจุบัน โดยเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ผมกล่าวเอาไว้ตอนต้นคืออยู่ ๆ ก็ได้เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าพระเจดีย์จนพังทลายลงและพบพระแก้วมรกตที่ถูกซ่อนไว้ภายในเจดีย์สภาพสมบูรณ์ไม่มีบุบสลายแต่อย่างใด หลายท่านอาจจะสงสัยว่าเหตุใดจึงต้องซ่อนพระแก้วมรกตเอาไว้ภายในเจดีย์ เพราะในสมัยนั้นจนปัจจุบันมีความเชื่อว่าหากพระแก้วมรกต ได้ไปประดิษฐานอยู่ ณ ที่ใด ที่นั้นก็จะมีแต่ความสุขเจริญรุ่งเรือง และในยุคสมัยโบราณที่ยังมีการสู้รบเพื่อแย่งชิงดินแดนกันอยู่จึงจำเป็นต้องซ่อนสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันล้ำค่าให้อยู่คู่บ้านคู่เมืองเป็นอย่างดี

    สถานที่ท่องเที่ยว พระอุโบสถวัดพระแก้ว


    สถานที่ท่องเที่ยว พระเจดีย์วัดพระแก้ว
    ประวัติของพระแก้วมรกตโดยย่อเท่าที่อ่านจากในวัดได้ใจความว่าพระแก้วมรกตได้ถูกสร้างขึ้นในประเทศอินเดียและจากการขนย้ายโดยเรือสำเภาได้เกิดอับปรางลงและลอยมาที่ฝั่งของประเทศกัมพูชา ซึ่งในสมัยนั้นเป็นอาณาจักรขอมโบราณ ต่อมาก็ได้ตกมาอยู่อาณาจักรอโยธยาโบราณ และช่วงที่มีศึกสงครามก็ได้ถูกอัญเชิญไปที่กำแพงเพชร หลังจากนั้นผู้ครองนครเชียงใหม่ต้องการอัญเชิญให้ไปประดิษฐานอยู่ที่เชียงใหม่ ขณะที่เดินทางกลับเชียงใหม่นั้นช้างกลับไม่เดินจึงจำต้องอัญเชิญพระแก้วมรกตให้ประดิษฐานที่ลำปาง ต่อมาเจ้าเมืองเชียงรายมีจิตเลื่อมใสศรัทธาจึงได้ไปทำพิธีอัญเชิญมาไว้ที่วัดพระแก้วเป็นเวลา 45 ปี ด้วยเหตุที่มีข้าศึกสงครามบ่อยจึงจำเป็นต้องซ่อนพระแก้วมรกตเอาไว้ในเจดีย์ แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุการฟ้าผ่าอย่างที่ได้เล่าไปตอนต้น พระแก้วมรกตได้ถูกอัญเชิญมาที่ลำปางอีกครั้ง และจากลำปางได้ถูกอัญเชิญขึ้นเหนือไปประดิษฐานที่วัดเจดีย์หลวง จ. เชียงใหม่ เป็นเวลา 85 ปี ครั้งนั้นกรุงศรีอยุธยาต้องทำศึกกับพม่า จึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปไว้ที่เมืองเวียงจันทร์ประเทศลาวเป็นเวลายาวนานถึง 225 ปี ซึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยาประเทศลาวถือเป็นเมืองขึ้นของไทย จนกระทั่งเสียกรุงครั้งที่สองประเทศลาวได้แข็งเมือง ภายหลังพระเจ้าตากสินมหาราชได้กอบกู้เอกราชได้แล้ว จึงได้ไปตีเมืองเวียงจันทร์ให้กลับมาเป็นเมืองขึ้นเช่นเดิม และได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่ประดิษฐานไว้ที่วิหารน้อยวัดอรุณราชวราราม กรุงธนบุรี พระแก้วมรกตจึงกลับสู่แผ่นดินไทยอีกครั้ง และภายหลังสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์จึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่ี่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง และมีพระนามว่า "พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร" เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของไทย เป็นศูนย์รวมจิตใจและความเลื่อมใสศรัทธาของคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน
    สถานที่ท่องเที่ยว โฮงหลวงแสนแก้ว

    หลังจากเดินผ่านเจดีย์ด้านหลังอุโบสถผมก็เดินทางมาพบกับโฮงหลวงแสนแก้ว อาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งมีศิลปแบบล้านนาประยุกต์ ถายในนั้นมีการจัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญ และศิลปล้ำค่าแบบโบราณมากมายก็เก็บภาพภายในสถานที่ท่องเที่ยวนี้มาฝากกันเหมือนเช่นเคย

    สถานที่ท่องเที่ยว หอพระหยกเชียงราย

    สุดท้ายหลังจากเที่ยวชมภายในโฮงหลวงแสนแก้วอยู่นานก็ออกมาด้านนอกและเดินไปทางด้านหลังสุดของวัดคือ หอพระหยก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระหยกเชียงราย หรือ "พระพุทธรัตนากร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล" ที่สร้างขึ้นมาทดแทนพระแก้วมรกตให้เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของเชียงราย ภายในหอพระหยกบนผนังอาคารเป็นจิตรกรรมผาผนังที่แสดงถึงตำนานของพระแก้วมรกตต่อเนื่องกันไป สามารถสื่อเรื่องราวได้ชัดเจนโดยไม่ต้องใช้ข้อความใด ๆ

    ผมใช้เวลาอยู่ในวัดพระแก้วชั่วโมงกว่า ๆ รู้สึกสงบร่มเย็นมาก บรรยากาศภายในวัดไม่พลุกพล่านและเงียบสงบร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และมีศิลปแบบล้านนาให้เห็นอยู่โดยรอบ เรียกว่าเต็มอิ่มกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จริง ๆ ครับ ถ้าคุณมาเชียงรายอย่างแรกที่ต้องทำแนะนำให้มาที่วัดพระแก้วเชียงรายครับ บทความหน้าผมเดินทางต่อไปที่วัดร่องขุนสถาปัตยกรรมอันแสนวิจิตรของเชียงรายแล้วจะมาเล่าสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้ฟังกันต่อในบทความหน้าครับ สวัสดีขอโชคดีจงมีแด่ท่าน
  • วัดจั๋นต๊ะโลก ก๋างเวียง สถานที่ท่องเที่ยวเจียงฮาย

    Posted: 2011-03-11 04:08:11 UTC+07:00
    ไปท่องเที่ยวเชียงรายมา 3 วัน 3 คืน นอกจากจะเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่เชียงรายแล้วผมยังได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของวัดเก่าแก่วัดหนึ่งซึ่งปัจจุบันก็ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเชียงรายด้วย วัดนี้มีชื่อเดิมว่า "วัดจั๋นต๊ะโลก ก๋างเวียง" ซึ่งปัจจุบันใช้ชื่อว่า "วัดกลางเวียง"

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว

    วัดจั๋นต๊ะโลก ก๋างเวียง ที่มาของชื่อนี้มาจากสมัยก่อนภายในบริเวณวัดด้านหลังมีต้นไม้จันทน์แดงขนาดมหึมา เป็นที่อยู่อาศัยของบรรดานกน้อยใหญ่ทั้งหลาย และไม้จันทน์แดงเป็นต้นไม้ที่มีเนื้อไม้กลิ่นหอม เป็นไม้บูชาพระตามธรรมเนียมโบราณ วัดนี้จึงได้ชื่อว่า "วัดจั๋นต๊ะโลก" เขียนเป็นภาษาไทยว่า "วัดจันทร์โลก" หรือ จันทนาราม

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว

    วัดนี้สร้างในปี พ.ศ. 1975 จากการค้นพบอิฐที่มีจารึกอักขระพื้นเมืองว่าสร้างสักราช 1975 หรืออาจจะเป็นการบูรณะในปีนั้นก็ได้ แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่อิฐจารึกดังกล่าวถึกนำเข้าบรรจุไว้ในพระเจดีย์ที่เห็นอยู่ปัจจุบันนี้ เมื่อประมาณ พ.ศ. 2493

    เหตุที่วัดจั๋นต๊ะโลกเดิม ได้ชื่อว่าวัดกลางเวียง เพราะการรังวัดพื้นที่เมื่อปี พ.ศ. 2404 (จ.ศ.1223) ยุคแรกเมืองนั้นมีบันทึกว่า "เมืองเชียงราย ลวงแป๋มี 974 วา ลวงขื่อมี 356 วา" เมื่อมีการขึงเส้นรังวัดทางการบ้านเมืองได้ยึดเอา "กองไขว้" คือ สี่แยกกลางเวียงเป็นจุดศูนย์กลาง แบ่งครึ่งไปทั้งสองทาง คือ ตะวันออกจรดตะวันตกเหนือจรดใต้ คณะกรรมการเมืองก็ตกลงทำหมายจำกันไว้ ณ ที่ในบริเวณวัด เพื่อเป็นที่หมายจำและสังเกตให้ถือเอาจุดนี้เป็น "สะดือเมืองเชียงราย" อยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของบริเวณวัด ต่อมาถูกรื้อทิ้งสร้างศาลาบาตรและรื้อมาสร้างศาลาการเปรียญปัจจุบัน


    ตุ๊ลุงเล่าว่าที่ "ดือเวียง" เขาสร้างมณฑปครอบอีกทีหนึ่ง มีการไหว้สะดือเมืองกันเป็นประเพณีเช่นเดียวกันกับประเพณีไหว้อินทขีลของเชียงใหม่ โดยถือเอาตัวอย่างจากเชียงใหม่มาทำที่เวียงเชียงราย เพราะผู้คนในเวียงเชียงรายก็อพยพมาจากเชียงใหม่ทั้งสิ้น และที่วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่เป็นจุดกึ่งกลางที่ตั้ง "ดือเมือง" คือเสาอินทขีลเช่นเดียวกับที่วัดกลางเวียงเชียงราย จึงสืบทอด "ป๋าเวณีไหว้ดือเมือง" มาที่เชียงรายด้วย

    วัดกลางเวียงปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีพระวิหารสวยงามมาก นัยว่ากรมศิลปากรออกแบบให้เป็นศิลปกรรมล้านนา รูปแบบกะทัดรัด ทางวัดได้เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของพระประธานจากเดิมให้เป็นพระพุทธรูปใหม่ ลงรักปิดทองเหลืองอร่ามไปทั้งองค์



    นอกจากที่กล่าวมาในตอนต้นในบางปีก็ยังมีการสักการะพระ ๘ วัด แห่งเวียงเจียงฮาย ซึ่งได้แก่ วัดกลางเวียง วัดงำเมือง วัดขัวแคร่ วัดพระแก้ว วัดพระสิงฆ์ วัดมิ่งเมือง วัดมุงเมือง วัดศรีเกิด วัดศรีบุญเรือง เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ท่านสาธุชนผู้ร่วมเดินทาง ถ้าแวะมาหาสถานที่ท่องเที่ยวทำบุญที่เชียงรายก็ขอแนะนำวัดจั๋นต๊ะโลก ก๋างเวียงอีกหนึ่งวัดครับ สวัสดี
  • สถานที่ท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยยามค่ำคืนเมืองเชียงราย

    Posted: 2011-03-11 04:08:26 UTC+07:00
    มาเล่าต่อถึงสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเชียงรายในคืนวันแรกของการเดินทางไปท่องเที่ยวของผม ซึ่งหลังจากที่ชมไร่แม่ฟ้าหลวงในตอนบ่ายก็ได้กลับมาที่สถานที่พักโรงแรม Le meridion และใช้บริการสระน้ำใสและเย็นฉ่ำสบายสักพัก ว่ายน้ำให้รู้สึกสบายคลายร้อน และสดชื่นแล้วก็ถึงเวลาเย็น พนักงานโรงแรมแนะนำว่าที่เมืองเชียงรายคนจะรับประทานอาหารเย็นกันเร็วเพราะที่เชียงรายนั้นฟ้าจะมืดเร็วกว่าที่กรุงเทพฯ มาก เรียกว่า 6 โมงเย็นฟ้าก็มืดสนิทเลย

    สถานที่ท่องเที่ยว Chiangrai Night Bazaar

    เมื่อถึงตอนเย็นในตัวเมืองมีร้านอาหารร่มรื่นและรสชาติดีแห่งหนึ่งชื่อว่าร้านสลุงคำ ลองไปชิมมาแล้วอากาศดีและรสชาติอาหารถูกปากตามคำแนะนำจริง ๆ ครับ จึงเก็บภาพมาฝากกันด้วยถ้ามาเชียงรายแล้วนึกชื่อร้านอาหารไม่ออกก็ลองถามคนในตัวเมืองเชียงรายก็จะรู้จักร้านนี้กันดี  นั่งรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยไปสักพักจนอิ่มแล้วก็เตรียมตัวไปเดินย่อยอาหารกันต่อที่สถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนเมืองเชียงรายครับ

    อ๊ะ ๆ ที่บอกว่าสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนเมืองเชียงรายนี่อย่าเข้าใจผิดนะครับ สถานที่ที่ว่านี้คือสถานที่เดินเที่ยวจับจ่ายใช้สอย เชียงราย ไนท์ บาซ่าร์ (Chiangrai Night Bazaar) ที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นเหมือนศูนย์รวมวัฒนธรรมและสังคมชาวล้านนา มีทั้งสินค้าสินค้าหัตกรรมทำด้วยมือ ของที่ระลึกจากชาวไทลื้อ ชาวไทยพื้นราบ และชาวชนเผ่า

    สถานที่ท่องเที่ยว เชียงราย ไนท์ บาซ่าร์


    เมื่อมาถึงสถานที่ท่องเที่ยวนี้ก็แวะเลือกชมและจับจ่ายสินค้ากันอย่างสนุก ต้องขอบอกว่าสินค้าที่นี่ราคาถูกมาและส่วนใหญ่เป็นงานหัตถกรรมแบบพื้นบ้าน เช่น ผ้าพันคอ ผ้าม่าน เสื้อไหมพรม กระเป๋าถือฯลฯ เครื่องประดับ ที่เป็นผลงานการถักทอ ปักเย็บ ที่ปราณีตสวยงาม ซึ่งผมเองก็เลือกซื้อได้ของฝากมาหลายชิ้นทีเดียวครับ

    เดินชมสินค้ารอบ ๆ จนครบแล้วก็มานั่งพักให้ผ่อนคลายที่ลานกลางเวียงใจกลางเชียงราย ไนท์ บาซ่าร์นี้ซึ่งที่ลานนี้จะมีดนตรี Folk song แสดงทุกค่ำคืน และมีการแสดงนาฏศิลป์ฟ้อนรำแบบล้านนาให้คุณชมแล้วประทับใจมากด้วย
    สถานที่ท่องเที่ยว เชียงราย ไนท์ บาซ่าร์

    นั่งพักจนหายเหนื่อยก็เป็นเวลาใกล้จะสามทุ่มผมจึงชวนกันเดินทางต่อไปชมหอนาฬิกาเปลี่ยนสีสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมได้นำเสนอไว้ในบทความก่อนหน้านี้ เสร็จแล้วก็จบท้ายด้วยการไปใหว้สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราชให้จิตใจผ่องใสก่อนกลับเข้าที่พัก เก็บพลังไปสถานที่ท่องเที่ยวแม่สายและท่องเที่ยวที่ดอยตุงกันต่อในวันรุ่งขึ้น ถ้าอยากทราบว่าบรรยากาศเป็นอย่างไรโปรดติดตามอ่านในตอนหน้าครับ

    ถ้าคุณมาเที่ยวที่เชียงรายอย่าลืมแวะมาเดินเที่ยวนะครับ สถานที่ท่องเที่ยว Chiangrai Night Bazaarจะเปิดขายตั้งแต่เวลา 18.30 - 23.00 น.
  • สถานที่ท่องเที่ยวน้ำตกลงรู ไปดูทุ่งดอกไม้ ชมพระอาทิตย์ก่อนใครที่อุบลราชธานี

    Posted: 2011-03-11 04:09:04 UTC+07:00
    บล็อกสถานที่ท่องเที่ยวกลับร้อยเรียงเรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามในไทยอีกครั้งก่อนที่จะจบการแข่งขัน SEO ชิงแชมป์แห่งประเทศไทยประจำปี 2010 บทความนี้เราจะไปดูสถานที่ท่องเที่ยวในภาคอีสานที่น่าสนใจและควรจะหาโอกาสไปให้ได้สักครั้งในชีวิต

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน

    อุบลราชธานีเมืองใหญ่ของภาคอีสาน ดินแดนแห่งพุทธศาสนา และแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ของโลก ด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม เชื้อชาติเผ่าพันธุ์ อันมีผืนป่ารอยต่อระหว่างไทย ลาว กัมพูชา ทั้งยังเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำโขง ชี มูล จึงปรุงแต่งให้จังหวัดนี้กลมกล่อมไปด้วยธรรมชาติ จนสามารถยึดพื้นที่ในใจของใครหลาย ๆ คนได้ในวินาทีแรกที่สัมผัสผืนป่าดงนาทาม

    กรุ่นกริ่นหอมประทับใจยังคงติดตรึงในความทรงจำของผมเสมือนว่าเพิ่งผ่านมาเมื่อวานนี้เอง เป็นวันที่ลมหนาวเริงระบำกลางอากาศ แดดสีหวานเย็นอาบอุ่นลานหินทุ่งดอกไม้ป่าก็ช่างนวลตาน่าดู

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอุบล
    ดอกสีม่วงนี่เรียกว่าดุสิตา นั่นสร้อยสุวรรณาดอกสีเหลือง ส่วนดอกสีเหลืองตรงนั้นคือกระดุมทอง ดอกสีขาวกลม ๆ คล้ายหัวหมุดเรียก กระดุมเงิน หรือมณีเทวา พี่ไกด์นำทางพูพลางชี้ให้ดูดอกไม้พระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ ๕ ชนิด ได้แก่ ดุสิตา สร้อยสุวรรณา มณีเทวา สรัสจันทร และทิพเกสร ซึ่งพากันอวดโฉมพร่างพราย แต่งแต้มผืนป่าดงนาทามให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในช่วงปลายฝนต้นหนาว

    เราหยุดทำความรู้จักดอกไม้ป่าไม่ทันไรก็ต้องจำใจบอกลาปล่อยให้ดอกไม้สวยงามยืนรับแสงอุ่นตามธรรมชาติ ส่วนพวกเราก็กลับวิ่งไล่พระอาทิตย์ที่จวนเจียนจะตก จนมาถึงแท่นหินใหญ่วางซ้อนกันดูคล้ายดอกเห็ด ตั้งคู่กันอยู่บนเนินหินทราย ชาวท้องถิ่นเรียกเสาหินนี้ว่า "เสาเฉลียงคู่"

    ณ สถานที่ท่องเที่ยวเนินเสาเฉลียงคู่นี้เองดวงตะวันกลมมนสีอมส้มเหมือนไข่แดง ค่อย ๆ ห้อยตัวลงต่ำจากฟากฟ้า ก่อนทำตัวอ้อยอิ่ง แล้วหายลับไปหลังเขาตรงเบื้องหน้า และความมืดมนก็มาเยือนอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้เราต้องเร่งสาวเท้าไปยังลานน้ำตกห้วยพอกจุดกางเต็นท์ตลอดค่ำคืนนี้


    ใต้แสงจันทร์ นวลเคล้าเสียงเพลงคุ้นหูทำให้คนไกลบ้านเคลิบเคลิ้มจนหลับไปอย่างไม่รู้ตัว สะดุ่งตื่นมาอีกทีเกือบตีห้าแล้ว ก็ลุกไปล้างหน้าล้างตาและหยิบกล้องคู่ใจออกเดินทางสู่ "ผาชะนะได"

    ว่ากันว่าสถานที่ท่องเที่ยวผาชะนะไดเป็นจุดชมวิวที่จะได้เห็นตะวันก่อนใครในสยามประเทศ ด้วยเหตุที่เป็นเพิงผาที่อยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศไทย ลองติจูด ๑๐๕ องศา ๓๗ ลิปดา ๑๗ ฟิลิปดาตะวันออก

    เส้นทางจากน้ำตกห้วยพอกสู่ผาชะนะไดที่รออยู่ข้างหน้าใช้เท้าเดินไม่ทันเมื่อยก็ถึงทิวทัศน์ที่เคยเห็นเป็นภาพถ่ายในหน้าหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเวลานี้ก็ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองแล้วสมใจแล้ว แสงแรกของดวงอาทิตย์ฉายฉาบอยู่ฝั่งตรงข้ามให้ทรงเสน่ห์ ก่อนวินาทีโผล่พ้นออกมาจากเหลี่ยมเขา

    อารมณ์สุขอิ่มเอมหัวใจกำลังเต็มเปี่ยมก็ต้องเอ่ยคำลายอดผาในวันที่รอคอยมานานอย่างอิดออด กลับที่พักเก็บข้าวของพร้อมตะลุยเส้นทางขากลับ แต่อดคิดไม่ได้ว่าขาขึ้นมาค่อนข้างลำบากขากลับก็คงหนีไม่พ้นต้องลำบากพอกันเป็นแน่ เคราะห์ดีที่ได้นั่งเบาะหน้า คนนั่งเบาะหลังก็คงก้นระบมกันมิใช่น้อย เมื่อผ่านเส้นทางเป็นหลุมเป็นบ่อมาได้ เสียงร้อง ไชโย ก็ดังลั่นรถ

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน

    รถกระบะพาเรามาส่งที่ อบต.นาโพธิ์กลาง ก่อนเปลี่ยนเป็นรถตู้วิ่งห้อสู่จุดหมายถัดไปที่สถานที่ท่องเที่ยวน้ำตกแสงจันทร์หรือที่เรียกกันว่า น้ำตกลงรู เป็นน้ำตกสายน้ำเล็ก ๆ เกิดจากน้ำในห้วยน้ำไหลไปตามพลาญหินทรายแล้วตกลงหน้าผาที่เป็นปล่องรูลงสู่ผืนดินด้านล่าง จึงพากันเรียกว่าน้ำตกลงรู ส่วนชื่อน้ำตกแสงจันทร์ก้เพราะว่าสายน้ำตกที่หล่นลงมาเป็นละอองขาวมองดูคล้ายแสงจันทร์ส่องพื้นโลก

    ชื่นชมน้ำตกเต็มอิ่มแล้วก็แวะไปปั่นจักรยานรับลมชมวิวที่แก่งตะนะ ช่วงบ่ายคล้อยจึงเดินทางต่อไปที่ผาแต้ม จุดสุดท้ายของการเดินทางท่องเที่ยวในครั้งนี้

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน
    ที่สถานที่ท่องเที่ยวผาแต้มมีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยต้อนรับและพาลัดเลาะดูภาพเขียนสีโบราณที่เรียงรายตามหน้าผา สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งแบ่งเป็น ๔ กลุ่มคือ กลุ่มแรกอยู่ที่ผาขาม กลุ่มที่สองอยู่ที่ผาแต้ม กลุ่มที่สามอยู่ที่ผาหมอนน้อย และกลุ่มที่สี่ผาหมอน ล้วนบอกเล่าเรื่องราวการดำเนินชีวิต และอารยธรรมของชุมชนลุ่มน้ำโขงในยุคก่อนย้อนไปกว่า ๓,๐๐๐ ปี ภาพที่ชัดเจนที่สุดและดีที่สุดคือภาพกลุ่มที่สอง มีภาพช้าง เต่า ปลาบึก ปลากระเบนน้ำจืด ตุ้ม ฝ่ามือ ไม่น่าเชื่อว่ารอยทางแห่งอดีตนั้นยังคงชัดเจนอยู่จนถึงปัจจุบันสมแล้วที่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมหัศจรรย์หนึ่งในอันซีนไทยแลนด์

    ติดต่อสอบถามรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่สำนักงาน ททท.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต ๒ โทรศัพท์ ๐-๔๕๒๔-๓๗๗๐ หรือองค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์กลาง โทรศัพท์ ๐-๔๕๓๘-๑๐๖๓
  • LE MERIDIEN สถานที่พัก ท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติเมืองเชียงราย

    Posted: 2011-03-11 04:09:13 UTC+07:00
    กลับมาเล่าถึงสถานที่ท่องเที่ยวเมืองเชียงรายกันต่อหลังจากบทความตอนที่แล้วได้นำภาพและวีดีโอของสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนในเมืองเชียงราย มาให้ชมกัน นั่นคือหอนาฬิกาเปลี่ยนสีฝีมืออาจารย์เฉลิมชัย

    สถานที่ท่องเที่ยว Le Meridien Chiangrai

    ในบทความนี้จะเล่าถึงสถานที่พักระดับห้าดาวและเป็นมิตรกับธรรมชาติ สถานที่พักแห่งนี้มีชื่อว่า โรงแรมเลอ เมอร์ริเดียน เชียงราย (Le Meridien Chiangrai) ต้องบอกตามตรงว่าในตอนแรกที่ตัดสินใจวางแผนมาท่องเที่ยวที่เชียงราย คิดอยู่ในใจว่า นี่เราจองโรงแรมหรูเกินไปหรือเปล่า แต่เมื่อได้เข้าพัก จนกระทั่งกลับกรุงเทพฯ ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่ามาก

    สถานที่ท่องเที่ยว เชียงราย
    Le Meridien นั้นตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงรายติดกับแม่น้ำกก และใกล้กับสนามบิน เป็นโรงแรมสถานที่พักระดับ 5 ดาวที่มีการปลูกสร้างและออกแบบที่เป็นมิตรกับธรรมชาติอย่างมาก ทุกมุมรอบ ๆ โรงแรมจะมีความกลมกลืนกับธรรมชาติ นอกจากจะมีการปลูกต้นไม้ที่ร่มรื่น และการจัดแต่งที่สวยงามแล้ว สระน้ำของโรงแรมนั้นมีการวางตำแหน่งให้อยู่ติดกับแม่น้ำกก ซึ่งถ้ามองจาก Lobby แล้วเราจะเห็นสระว่ายน้ำของโรงแรมเป็นผืนแผ่นเดียวกับแม่น้ำกกจนแยกไม่ออก เรียกว่าเป็นสถาปัตยกรรมขั้นสูงเลยทีเดียว

    ภายในตัวโรงแรมห้องพักส่วนใหญ่ก็จะสามารถมองเห็นวิวฝั่งแม่น้ำกกได้ และยังมีบริการนวดสปาสำหรับท่านที่ต้องการผ่อนคลาย ห้องสำหรับออกกำลังกายยามเย็น บาร์สำหรับนั่งจิบไวน์ยามค่ำคืน และมีห้องสมุดสำหรับให้บริการ Internet ให้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย

    สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว LE MERIDIEN

    สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว LE MERIDIEN

    สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว โรงแรม LE MERIDIEN เชียงราย

    สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว LE MERIDIEN
    เข้ามาภายในห้องพักดูหรูหรามากเตียงและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ มีครบถ้วน และวัสดุส่วนใหญ่จะทำจากไม้ธรรมชาติ ใช้โทนสีที่รู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ในธรรมชาติทีเดียว ตัวผมเองเมื่อจัดข้าวของที่เตรียมมาเสร็จแล้วด้วยความเหนื่อยเพลียกับการเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงรายประมาณ 9.00 น. จึงล้มตัวลงนอนพัก

    สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว โรงแรม LE MERIDIEN

    ไม่น่าเชื่อ! เหมือนกับได้นอนบนสวรรค์ทีเดียว เตียงและหมอนรวมทั้งระดับแสงไฟทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก เพราะเตียงและหมอนของโรงแรมนี้ได้ออกแบบโดยเฉพาะไม่เหมือนกับโรงแรมอื่น ๆ ทั่วไป พอสอบถามบริกรของโรงแรมก็ได้รู้ข้อมูลอีกว่ามีแขกที่มาพักขอซื้อหมอนของโรงแรมกลับไปด้วยเป็นจำนวนมากซึ่งทางโรงแรมก็ยินดีที่ขายให้ในราคาที่ไม่สูงนัก จึงไม่แปลกใจเลยที่ผมตื่นมาอีกที่ก็เที่ยงครึ่งเข้าไปแล้ว เกือบจะอดออกไปเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งใจเอาไว้ก่อนมาเลยทีเดียวครับ (ฮา)

    หลังจากตื่นผมก็เดินทางไปรับประทานอาหารเที่ยง และได้ข้อมูลจากทางโรงแรมว่าประมาณบ่ายสองจะมีรถตู้ของโรงแรมบริการขับไปส่งยังสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติไร่แม่ฟ้าหลวงให้ชมพันธุ์ไม้สวยงามนานาชนิด ไปชมมาแล้วสวยงามมากจริง ๆ ครับแต่อดใจไว้นิด เพราะผมจะมาเล่าให้ฟังในตอนต่อไป



    ถ้าคุณไปท่องเที่ยวที่เชียงรายและต้องการสถานที่พักที่มีความสะดวกสะบายเป็นธรรมชาติระดับ 5 ดาว ผมแนะนำให้ลองไปเข้าพักที่นี่ดูรับรองว่าไม่ผิดหวังครับ ข้อมูลเพิ่มเติมโทร (053)712334, (053)712335
  • สถานที่ท่องเที่ยวชมหอนาฬิกาเปลี่ยนสีเมืองเชียงราย

    Posted: 2011-03-11 04:09:23 UTC+07:00
    เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงราย พักค้างคืน 3 คืน จึงได้ไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งนั้นส่วนใหญ่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ได้ไปสัมผัสแล้วก็รู้สึกสดชื่นสบายใจแทบไม่อยากกลับมาที่กรุงเทพฯ เลยครับ จากประสบการณ์การท่องเที่ยวครั้งนี้ผมก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามที่น่าสนใจหลายแห่งมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน

    สถานที่ท่องเที่ยว หอนาฬิกาเปลี่ยนสี เชียงราย
    สถานที่ท่องเที่ยวเมืองเชียงรายแห่งแรกที่แนะนำและได้เก็บภาพมาฝากคือหอนาฬิกาเปลี่ยนสีกลางเมืองเชียงราย หอนาฬิกาแห่งนี้จัดสร้างขึ้นเพื่อ เป็นหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี 12 สิงหา ดำเนินการสร้างมาตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมาและเริ่มเปิดอย่างเป็นทางการ วันที่ 12 สิงหาเฉลิมพระชนมพรรษาองค์พระราชินี ประจำปี 2551 โดยมีอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติเป็นผู้ออกแบบ และเป็นผู้ควบคุมด้านศิลปะความและการก่อสร้าง โดยอาจารย์เฉลิมชัย คาดหวังว่าหอนาฬิกาแห่งนี้จะต้องเป็นหอนาฬิกาที่ติดอันดับความสวยงาม ในอันดับต้นๆของโลก ปัจจุบันหอนาฬิกาแห่งนี้จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเชียงรายที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะมาชมในความงามและการจัดแสดงแสงสีเสียงที่แปลกตาน่าสนใจ หากคุณได้มาเชียงรายและต้องการชมในความงามและการแสดงแสงสีเสียง สามารถชมได้ในเวลา หนึ่งทุ่มตรง สองทุ่มตรง และสามทุ่มตรง

    ด้านล่างนี้เป็นวีดีโอการจัดแสดงแสงสีเสียงเวลา สามทุ่มตรง ที่ผมได้บันทึกมาฝากครับ



    จากวีดีโอด้านบนสามารถบรรยายได้ดังนี้
    เมื่อเสียงนาฬิกาบอกเวลาสามทุ่มตรงเสียงกลองสะบัดชัยจะดังขึ้น แสงไปรอบ ๆ หอนาฬิกาจะเริ่มสาดส่องและเปลี่ยนสีเป็นสี เขียว ฟ้า ม่วง แดง ดังที่เห็นในวีดีโอด้านบน และขณะที่กลองสะบัดชัยดังรัวอยู่นั้นจะมีดอกบัวผุดขึ้นมาอย่างช้า ๆ และบานในที่สุด จากนั้นเมื่อกลองสะบัดชัยรัวเร็วขึ้นดอกบัวจะค่อย ๆ หุบหายไปใต้ฐานของหอนาฬิกาพร้อมกับเสียงกลองสะบัดชัยที่สิ้นสุดลง หลังจากนั้นเสียงเพลงเชียงรายรำลึกก็จะดังขึ้นมา พร้อมกับรูปปั้นลายไทยที่ขึ้นมาแทนที่ตำแหน่งของดอกบัวและหมุนอยู่ภายในหอนาฬิกา และเมื่อจบเสียงเพลงเชียงรายรำลึกการแสดงแสงสีเสียงก็สิ้นสุดลงและหอนาฬิกาก็จะกลับมาเป็นสีทองอร่ามดังเดิม

    ถ้ามีโอกาสมาท่องเที่ยวเชียงรายอย่าพลาดมาสถานที่ชมความงามของหอนาฬิกาเปลี่ยนสีนะครับ

    แผนที่สถานที่ท่องเที่ยวหอนาฬิกาเปลี่ยนสีเมืองเชียงราย
  • พระราชวังจันทน์สถานที่ท่องเที่ยวมรดกทางวัฒนธรรม

    Posted: 2011-03-11 04:09:35 UTC+07:00
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสขับรถผ่านพิษณุโลกเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์มากมายหลายแห่ง จึงได้แวะไปยังสถานที่ซึ่งเคยเป็นพระราชวังซึ่งเป็นสถานที่เสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งในปัจจุบันสถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของเมืองพิษณุโลก และรู้จักกันในชื่อ "พระราชวังจันทน์"

    สถานที่ท่องเที่ยว พระราชวังจันทน์
    พระราชวังจันทน์ เดิมนั้นตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองพิษณุโลก บนฝั่งแม่น้ำน่านทางด้านทิศตะวันตก ตรงข้ามกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นพระราชวังของเมืองพิษณุโลก เมืองชึ่งมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งในอดีตตั้งแต่สมัยสุโขทัยว่า เมืองสองแคว สาเหตุที่เมืองพิษณุโลกมีชื่อเรียกว่าเมืองสองแควเพราะมีแม่น้ำไหลผ่านเมืองสองสายคือแม่น้ำน่านกับแม่น้ำน้อย มีลักษณะเป็นเมืองอกแตกที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง ซึ่งไหลจากแนวกำแพงเมืองทางด้านทิศเหนือไปออกทางด้านกำแพงเมืองทิศใต้ โดยเมืองฝั่งของพระราชวังจันทน์นั้นถูกใช้เป็นศูนย์กลางอำนาจในการปกครอง แต่ต่อมาในสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้ทรงให้ก่อกำแพงเมือง เพื่อเชื่อมเมืองทั้งสองสมัยบนสองฝั่งแม่น้ำให้เป็นเมืองเดียวกัน

    ในบันทึกของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้กล่าวถึงที่มาของคำว่าจันทน์ ว่ามาจากไม้จันทน์ซึ่งเป็นไม้ที่มีกลิ่นหอมและใช้สร้างเรือนสำหรับเจ้านายผู้สูงศักดิ์ในสมัยนั้น

    สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ประทับที่วังจันทน์ช่วงที่ทรงครองเมืองพิษณุโลกมาก่อน ต่อมาเมื่อเสด็จมาประทับที่กรุงศรีอยุธยาได้ทรงสร้างวังอีกแห่งหนึ่งซึ่งในพระราชพงศาวดารเรียกวังที่สร้างใหม่นี้ว่า วังใหม่ จนกระทั่งในสมัยที่ต้องอพยพผู้คนเมืองเหนือลงมากรุงศรีอยุธยา ชาวเมืองเหนือที่ตามเสด็จเรียกก็ยังคงเรียกวังใหม่ว่า วังจันทน์ เหมือนวังที่เมืองพิษณุโลก และภายหลังวังจันทน์ที่กรุงศรีอยุธยาถูกเรียกว่าวังจันทน์เกษมนั่นเอง

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวพระราชวังจันทน์ ไก่ชนพันธุ์เหลืองหางขาว
    ไก่ชนพันธุ์เหลืองหางขาว (ไก่ชน พระนเรศวร) ในสถานที่ท่องเที่ยวพระราชวังจันทน์

    ประมาณปี พ.ศ. 2535 โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคมได้ย้ายมาก่อตั้งที่บริเวณนี้ ในขณะที่เตรียมสร้างอาคารจึงขุดพบแนวกำแพง  ในปี พ.ศ.2537 กรมศิลปากรประกาศจึงขึ้นทะเบียนโบราณสถาน พระราชวังจันทน์ และประกาศขอบเขตที่ดินโบราณสถานตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาจำนวนพื้นที่ 128 ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา ซึ่งสภาพของพระราชวังจันทน์จะเหลือเพียงซากกำแพงเมืองเท่านั้น ต่อมาในปี 2545 ได้มีการบูรณะพระราชวังจันทน์ โดยย้ายโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคมและบ้านเรือนของราษฎรออกจากบริเวณนั้น เพื่อทำการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ในเขตพระราชวัง โดยก่อตั้งศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชขึ้นในจุดที่เป็นพระที่นั่งเดิมของเขตพระราชวังจันทน์ในอดีต

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวพระราชวังจันทน์ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    ภาพด้านในศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

    ปัจจุบันพระราชวังจันทน์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวศึกษาประวติศาสตร์ที่ทรงคุณค่าอีกแห่งของเมืองพิษณุโลก เป็นนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้วยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประเทศและแหล่งเรียนรู้ให้คนรุ่นหลังได้เข้าใจประวัติความเป็นมาที่ยาวนานของเมืองพิษณุโลกอีกด้วย
  • สถานที่ท่องเที่ยว ทำบุญและศึกษาประวัติศาสตร์ พระธาตุนครชุม

    Posted: 2011-03-11 04:09:44 UTC+07:00
    กลับมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในภาคกลางอีกครั้ง ถ้าท่านใดได้มีโอกาสแวะหรือเดินทางผ่านจังหวัดกำแพงเพรช อยากให้แวะไปที่ วัดพระบรมธาตุพระอารามหลวง ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร เพราะที่วัดแห่งนี้ี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่ศรัทธาของชาวเมืองกำแพงเพชร ตั้งแต่ในอดีตจนปัจจุบัน

    สถานที่ท่องเที่ยว ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว พระธาตุนครชุม
    พระธาตุนครชุมเป็นพระบรมธาตุเจดีย์ ที่งดงามเปล่งประกายสีทองเมื่อยามที่กระทบกับแสงแดด ตั้งอยู่ในวัดพระบรมธาตุพระอารามหลวง แต่เดิมนั้นพระบรมธาตุเจดีย์ได้สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย พระมหาธรรมราชาลิไท ศิลปะแบบสุโขทัย ประมาณปี พ.ศ.1900 ต่อมาพระมหาเจดีย์ทรุดโทรมลงมาก ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงอนุญาตให้พ่อค้าไม้ชาวพม่าชื่อ พระยาตะก่าเศรษฐีชาวพม่าที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้ทำการบูรณะพระเจดีย์ โดยการสร้างเจดีย์แบบพม่าครอบเจดีย์องค์เดิมเอาไว้ ลักษณะของสถานที่ท่องเที่ยวพระธาตุนครชุมจึงดูคล้ายกับเจดีย์ของพม่าอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

    ชาวเมืองกำแพงเพรช และนักท่องเที่ยวทั่วไปจะนิยมมาสักการะเพราะมีความเชื่อที่เล่าต่อกันมาว่า "ผู้ใดไหว้นบกระทำบูชาพระศรีรัตนมหาธาตุ และพระศรีมหาโพธิ์ไซร้ มีผลอานิสงส์พร่ำเสมอดังได้นบพระผู้เป็นเจ้า" ทำให้ผู้คนอยากไปกราบสักการะขอบารมีองค์บรมธาตุเจดีย์ ให้คุ้มครองและมี และให้ครอบครัวและตนเองมีความสุขในการดำเนินชีวิต ซึ่งชาวกำแพงเพรชส่วนใหญ่จะนิยมมาสักการะ ทำบุญในช่วงวันมาฆบูชาและวันสงกรานต์

    ภายในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ การจัดแสดงภาพประวัติศาสตร์สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสต้นลุ่มน้ำกำแพงเพชร และมีการจัดแสดงทั้งประวัติศาสตร์ โบราณคดี ภูมิปัญญา ในสมัยสุโขทัย อีกด้วย

    การได้มาท่องเที่ยวสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้นอกจากจะได้ทำบุญแล้ว ยังได้เป็นการศึกษาประวัติศาสตร์ของคนไทยในสมัยสุโขทัยด้วย ถ้ามีโอกาสเดินทางผ่านมาหรือแวะมาท่องเที่ยวกำแพงเพชรแล้วก็ อย่าลืมมาดูประกายสีเหลืองทองเมื่อถูกอาบด้วยแสงอาทิตย์ในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ด้วยตาตนเองครับ

    ดูสถานที่ท่องเที่ยวพระธาตุนครชุมจาก Google Map
  • สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อ่าวหินงาม

    Posted: 2010-10-10 16:03:38 UTC+07:00
    อ่าวหินงามเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งบนเกาะพะงัน เกาะที่ยังคงสภาพความสมบูรณ์ทรงคุณค่า แห่งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี

    เมื่อกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะพะงัน อ่าวหินงามยังไม่ได้ถูกกล่าวถึงมากนัก เพราะที่เกาะพะงันมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามและขึ้นชื่ออยู่หลายแห่ง เช่น น้ำตกธารเสด็จ ซึ่งเป็นน้ำตกที่รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสถึง 14 ครั้ง และได้ทรงพระราชทานนามไว้ หรือสถานที่อีกแห่งที่ผู้คนรู้จักกันก็คือ สวนสุวรรณโชติการาม หรือวัดเขาถ้ำ ตั้งอยู่บนยอดเขาข้าวแห้ง เป็นสำนักสงฆ์ที่ร่มรื่นและในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนจะมีชาวไทยและชาวต่างประเทศนิยมมานั่งวิปัสนาเพื่อชำระจิตใจให้ผ่องใส และถ้าพูดถึงหาดบนเกาะพะงันที่มีชื่อเสีงมากแห่งหนึ่งคือ หาดริ้น หาดที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมา ชุมนุมกันในวันพระจันทร์เต็มดวง เรียกว่า ฟูลมูน ปาร์ตี้ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนนับพันคนมาเต้นรำกันอย่างสนุกสนานจนมีชื่อเสียง ดังไปทั่วโลก

    อ่าวหินงามเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนเกาะพะงัน เป็นอ่าวที่มีความงาม และแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนึ่ง อ่าวหินงามแห่งนี้ นับว่าเป็นอ่าวที่ยังไม่มีผู้ยึดครองเรียกได้ว่ายังเป็นพื้นที่สาธารณะแห่งเดียวบนเกาะพะงัน รอบ ๆ ชายหาดมีหินลักษณะกลมเกลี้ยง มีประกายยามสะท้อนกับแสงอาทิตย์อย่างสวยงามอยู่มาก เมื่อก่อนมีจำนวนมากกว่านี้ แต่ปัจจุบันได้มีการลักลอบนำไปขาย ทำให้ปริมาณหินสวยงามลดไปมาก จึงได้มีการอนุรักษ์และมีการระวางโทษหากมีผู้ในฝ่าฝืนเข้ามาขโมยจะมีโทษทั้ง จำและปรับ
    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อ่าวหินงาม

    ที่อ่าวหินงามสามารถมองท้องทะเลได้กว้างไกลจนสุดสายตา ความงามของพื้นที่แห่งนี้ที่เป็นศูนย์รวมความสวยงาม ของทรัพยากรธรรมชาติที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและสวยงามที่สุด จึงเหมาะเป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งในยามพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ถ้าคุณได้เดินทางไปเที่ยวที่เกาะพะงันอย่าลืมแวะไปชมสถานที่ท่องเที่ยวอ่าวหินงามกัน

    การเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะพะงัน
    เดินทางระหว่างสุราษฎร์ธานี-เกาะพะงัน
    (1) เรือเฟอร์รี่ ของบริษัท ราชาเฟอร์รี่ ออกจากท่าเรือดอนสัก ไปเกาะพะงัน เวลา 10.00 น. 14.00 น. และ 18.00 น. ถึงเกาะพะงัน เวลา 12.30 น. 16.30 น. และ 20.30 น. ค่าโดยสารคนละ 180 บาท/คน
    (2) เรือด่วน ของบริษัท ส่งเสริม รุ่งเรือง ออกจากสุราษฎร์ธานี วันละ 1 เที่ยว เวลา 08.00 น. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสาร 205 บาท
    (3) เรือนอน ติดต่อได้ที่ท่าเรือบ้านดอน เรือออกเวลา 23.00 น. ถึงเกาะพะงัน เวลา 06.00 น. ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสาร 150 และ 200 บาท

    เดินทางระหว่างเกาะสมุย-เกาะพะงัน
    เรือด่วน บริษัท ส่งเสริม รุ่งเรือง ออกจากท่าเรือหน้าทอน วันละ 3 เที่ยว เวลา 09.00 น. 11.00 น. และ 17.00 น. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสาร 115 บาท สอบถามข้อมูล โทร. 0 2280 7897 สำนักงานเกาะสมุย โทร. 0 7742 0157

    สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อ่าวหินงาม จาก Google Map
  • สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

    Posted: 2010-10-26 21:44:11 UTC+07:00
    อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อุดมสมบูรณ์พร้อมไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลายมีทั้งมีสัตว์ป่า นกหายาก ผีเสื้อหลากชนิด ทะเลหมอกและสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติมากมายให้คุณได้ท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติกันอย่างสุขสดชื่น

    สถานที่ท่องเที่ยว  อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
    สถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานถือเป็นอุทยานที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เพราะมีพื้นที่ถึง1.8 ล้านไร่ เลยทีเดียว อำเภอแก่งกระจาน อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี และหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังคงสภาพเป็นป่าดงดิบตามธรรมชาติที่สมบูรณ์และมีความหลาก หลายทางชีวภาพสูงมากแห่งหนึ่ง ได้รับการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2524 โดยกำหนดพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำและป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ

    สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้น พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง โดยสันเขื่อนแก่งกระจานตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพชรบุรี ประมาณ 3 กิโลเมตร มีถนนเลียบสันเขื่อนเชื่อมต่อให้สามารถเดินทางได้สะดวก

    สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแห่งนี้มีที่ใดบ้าง?
    สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำให้ไปเปิดหูเปิดตาเป็นแห่งแรกเลยคือทะเลสาบ ซึ่งมีพื้นที่ถึง 45 ตารางกิโลเมตรโดยประมาณ และมีเกาะกลางแม่น้ำอยู่มากมายหลายเกาะ ถ้าคุณต้องการไปท่องเที่ยวก็สามารถล่องเรือ ซึ่งเช่าได้จากชมรมเรือที่อยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานราคาก็ประมาณ 600- 800 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและระยะเวลาด้วย

    ระหว่างล่องเรือก็แวะชมสถานที่ท่องเที่ยว เกาะพลับพลาหรือเกาะในหลวง สะพานสลิง และอย่าลืมไหว้พระที่เกาะโสมชำระจิตใจให้ผ่องใสกันด้วย

    สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในอุทยานที่คุณ และนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวอุทยานพลาดไม่ได้คือ เขาพะเนินทุ่ง เพราะที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่ถูกพูดถึงมากอีกแห่งหนึ่ง เขาพะเนินทุ่งเป็นภูเขาสูงและสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1207 เมตร บริเวณโดยรอบจะเป็นป่าดิบเขา มีสัตว์ป่าหลากหลายและชุกชุม ทิวทัศน์ก็งดงามมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนต่อฤดูหนาวจะสามารถเห็นทะเลหมอกที่สวยงามเหมือนอยู่บนสวรรค์เลยทีเดียวครับ

    สถานที่ท่องเที่ยว  อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สถานที่ท่องเที่ยวภาคใต้
    การเดินทางขึ้นไปบนเขาพะเนินทุ่งไม่ง่ายนักเพราะเส้นทางเป็นทางดินสูงชัน และบางช่วงก็ต้องข้ามผ่านลำธาร ควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีบริการเอาไว้จะดีกว่า การขึ้นไปบนเขานักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปกลับในวันเดียว หรืออาจพักค้างแรมที่พะเนินทุ่งแคมป์ สักหนึ่งคืนก็ได้ ซึ่งคุณสามารถติดต่อรถได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยาน ในช่วงเวลา เวลาขึ้น ช่วงเช้าเวลา 05.00-07.30 น. ช่วงบ่ายเวลา 13.00-15.00 น. เวลาลง ช่วงเช้าเวลา 9.00-10.00 น. ช่วงบ่ายเวลา 16.00-17.00 น

    ถัดจากเขาพะเนินทุ่งไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร จะมีน้ำตกสวยงามอยู่บริเวณนั้นด้วยคือ น้ำตกทอทิพย์ รอบ ๆ น้ำตกจะเป็นป่าร่มรื่น มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นจะมีความสวยงามแปลกตากว่าน้ำตกแห่งอื่น ๆ โดยเฉพาะชั้นที่ 5 เพราะด้วยความที่เป็นน้ำตกท่ามกลางป่าร่มรื่นนั่นเอง

    การท่องเที่ยวธรรมชาติในอุทยานที่แนะนำอีก 1 กิจกรรมคือ การไปดูนกและผีเสื้อตามเส้นทางเริ่มจากด่านตรวจเขาสามยอดถึงกิโลเมตรที่ 18 ซึ่งคุณจะพบกับนกนานาพันธ์ในบริเวณเลยด่านตรวจมาเล็กน้อย และบริเวณกิโลเมตรที่ 10-12 จะพบผีเสื้อที่อยู่ตามโป่งดิน และถ้าคุณเดินทางต่อมาอีกหน่อย ในบริเวณกิโลเมตรที่ 18-27 คุณจะพบกับนกกระลิงเขียดหางหนาม ซึ่งเป็นนกหายากและพบเห็นในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย

    นอกจากนี้ถ้าคุณมีเวลาพักค้างคืนสักสองคืนก็แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามในอุทยานอีกหลายแห่งให้ไปแวะชมกัน ได้แก่ น้ำตกเล็ก ๆ สองแห่งคือน้ำตกปราณบุรีและน้ำตกแม่สะเลียง ถ้ำหัวช้างซึ่งเรียกตามหินงอกหินย้อยที่มีลักษณะคล้ายหัวกระโหลกช้าง ถ้ำเขาปะการัง และเขาปะการัง ภูเขาหินปูนที่มีสีเทาอมน้ำเงิน มีหน้าผาให้ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม มีป่าไม้เขียวขจีและภูเขาสลับซับซ้อนสวยงามในยามเช้าและยามเย็น

    ในสถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมีบ้านพัก 18 หลัง ถ้าหากเต็มหรือต้องการสัมผัสบรรยากาศธรรมชาตินักท่องเที่ยวก็สามารถกางเต็นท์บริเวณริมอ่างเก็บน้ำข้างที่ทำการอุทยานได้ ซึ่งกางเต็นท์ได้ 200 หลัง บริเวณบ้านกร่างแคมป์ (กม.15) กางเต็นท์ได้ 100 หลัง และพะเนินทุ่งแคมป์ กางเต็นท์ได้ 60 หลัง นอกจากนี้ บริเวณภายนอกอุทยานฯ มีรีสอร์ทให้บริการหลายแห่ง ทั้งในอำเภอ

    เดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอย่างไร?

    ถ้าไปรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 35 ถึงอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านแยกเข้าตัวเมืองเพชรบุรี จะถึงสี่แยกท่ายาง เลี้ยวขวาเข้าอำเภอท่ายาง แล้ววิ่งไปตามถนนเลียบคลองชลประทาน ตามทางหลวงหมายเลข 3499 3499 ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ก็จะถึงอำเภอแก่งกระจาน จากปากทางเข้าอุทยาน อีก 4 กิโลเมตรจะถึงที่ทำการอุทยาน

    และถ้าไปโดยรถโดยสารประจำทาง จะมีรถสายกรุงเทพฯ-ท่ายาง ลงที่ตลาดท่ายาง จากนั้นต่อรถสองแถวไปตลาดแก่งกระจาน และต่อรถรับจ้างหรือจักรยานยนต์ไปอีก 4 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยาน หรือใช้บริการรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งราชวิถี) ราคาคนละ 180-200 บาทไปที่ตลาดแก่งกระจาน และต่อรถรับจ้างอีก 4 กิโลเมตรไปยังที่ทำการอุทยาน

    ดูแผนที่สถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจาก Google Map
  • 2 สถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์เมืองโคราช

    Posted: 2010-10-05 01:00:42 UTC+07:00
    วันนี้ยังคงแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโครราชให้รู้จักอีกสองแห่งเพราะสถานที่ท่องเที่ยวทั้งสองแห่งนี้อยู่ติดกันนักจึงสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่อเนื่องกันได้

    สถานที่ท่องเที่ยวอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
    อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ตั้งอยู่ด้านหน้าประตูชุมพล ทางด้านทิศตะวันตก จากตัวเมืองโคราช ให้ขับรถตามถนนราชดำเนิน ระหว่างทางจะมีป้ายบอกทางชัดเจน ไม่ไกลก็จะเห็นอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีตั้งเด่นอยู่ทางขวามือ

    ท้าวสุรนารี มีนามเดิม คุณหญิงโม เป็นธิดาของ นายกิ่ม นางบุญมา เกิดเมื่อ พ.ศ. 2314 สมรสกับพระยาปลัดเมืองนครราชสีมา (ทองคำ) ซึ่งต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้มีตำแหน่งเป็นพระยามหิศราธิบดี ท้าวสุรนารี ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อ พ.ศ. 2395 รวมสิริอายุ 81 ปี

    สถานที่ท่องเที่ยว ย่าโม
    อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2477 ตั้งอยู่ด้านหน้าของประตูชุมพลทางด้านทิศตะวันตก อนุสาวรีย์เป็นรูปหล่อทองแดง รมดำ สูง 1.85 เมตร หนัก 325 กิโลกรัม ประดิษฐานอยู่บนไพทีสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง สูง 2.5 เมตร รูปหล่อท้าวสุรนารี ตัดผมทรงดอกกระทุ่ม แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทาน มือขวากุมดาบ ปลายดาบจรดพื้น มือซ้ายท้าวสะเอว หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของจังหวัดกรุงเทพมหานคร สถานที่ท่องเที่ยวอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีเป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดนครราชสีมามาก โดยจะจัดให้มีงานรำลึกในความสามารถที่ฉลาดหลักแหลมและวันแห่งขัยชนะของท้าวสุรนารี ช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายนเป็นประจำทุกปี


    สถานที่ท่องเที่ยวประตูชุมพล
    ตั้งอยู่ด้านหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ทางด้านทิศตะวันตก จากตัวเมืองโคราช ให้ขับรถตามถนนราชดำเนิน ระหว่างทางจะมีป้ายบอกทางชัดเจน ขับต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีที่ตั้งเด่นอยู่ทางขวามือ ก็จะมองเห็นประตูชุมพลตั้งเยื้องอยู่ทางด้านหลังของสถานที่ท่องเที่ยวอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

    สถานที่ท่องเที่ยว ประตูชุมพล
    ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พ.ศ. 2199 - พ.ศ. 2231 มีพระราชดำรัสให้เมืองเสมา เมืองโคราช และเมืองพิมาย เป็นหน้าด่าน จึงโปรดให้สร้างเมืองที่มีป้อมปราการแบบฝรั่ง โดยมีนายช่างชาวฝรั่งเศสเป็นผู้วางผังเมือง และก่อสร้างกำแพงเมือง ต่อมาเมื่อมีการก่อสร้างพระยมราช (สังข์) เจ้าเมืองนครราชสีมา ได้เปลี่ยนแปลงก่อสร้างกำแพงเมืองบางส่วนแบบฝรั่งให้เป็นแบบไทยแทน โดยมีป้อมประจำกำแพง และป้อมตามมุมกำแพงรวม 15 ป้อม มีประตูเมืองกว้าง 3 เมตร (1 วา 2 ศอก) จำนวน 4 ประตู โดยประตูเมืองทั้ง 4 เป็นทางเข้าออกเมืองทั้งสี่ทิศ มีประตูชุมพล ประตูพลแสน ประตูพลล้าน และประตูไชยณรงค์ ปัจจุบันเหลือเพียงสถานที่ท่องเที่ยวประตูชุมพล เพียงประตูเดียวที่ยังหลงเหลือโครงสร้างเดิมไว้อยู่

    ประตู "ชุมพล" หมายถึง ที่ชุมนุมพล เป็นประตูสำหรับเตรียมไพร่พลออกศึก บริเวณซุ้มประตู จะมีหอยามรักษาการณ์ - เชิงเทิน รูปแบบเป็นทรงไทยโบราณ ศิลปะสมัยอยุธยา หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา มีช่อฟ้าใบระกา กรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียนประตูชุมพลให้เป็นโบราณวัตถุสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2480
  • สถานที่ท่องเที่ยว ตามรอยศิลป์ลูกแม่น้ำมูลที่ด่านเกวียน

    Posted: 2010-10-03 10:08:08 UTC+07:00
    สถานที่ท่องเที่ยวหมู่บ้านด่านเกวียน เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ริมแม่น้ำมูล ตั้งอยู่ที่ตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 224 ด่านเกวียนมีเนื้อที่ประมาณ 21 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 60,971 ไร่ ในอดีตสถานที่ท่องเที่ยว "ด่านเกวียน" มีชื่อเดิมว่า "ด่านเกียน" หมายถึง เกลี้ยง เตียน โล่ง ต่อมาด่านเกวียนกลายเป็นจุดพักแรมและค้าขายกันระหว่างพ่อค้าจากนางรอง บุรีรัมย์ สุรินทร์ ไปจนถึงเขมรกับพ่อค้าชาวโคราชและมักจะพักกองคาราวานเกวียนไว้ที่นี่ จนได้ชื่อว่าหมู่บ้านด่านเกวียน และใช้กันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน
    ในขณะที่พักแรมในสถานที่ท่องเที่ยวนี้ พ่อค้าก็จะมักนำดินจากสองฟากฝั่งลำน้ำมูลมาทำภาชนะใช้สอยต่างๆ ทั้งโอ่ง อ่าง ไหปลาร้า ฯลฯ โดยลอกเลียนแบบจากชาวข่าว กลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แต่เก่าก่อน และด้วยคุณภาพพิเศษของภาชนะทั้งในด้านสีสันและความทนทานต่อการใช้งาน จึงทำให้ภาชนะด่านเกวียนได้รับความนิยมเรื่อยมา จนกลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านมากมายในปัจจุบัน

    สถานที่ท่องเที่ยวหมู่บ้านด่านเกวียนห่างจากตัวเมืองโคราชเพียง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาท่องเที่ยว เลือกซื้อของ สักครึ่งหรือค่อนวัน จากนั้นคุณก็สามารถกลับไปท่องเที่ยวตัวเมืองต่อได้สะดวกสบาย มีที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ประตูชุมพล วัดศาลาลอย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมหาวีรวงศ์ และสวนสัตว์นครราชสีมา
  • วังน้ำเขียว สถานที่ท่องเที่ยว สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน

    Posted: 2010-10-01 05:22:20 UTC+07:00
    สถานที่ท่องเีที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพอีกแห่งที่มีบรรยากาศเย็นสบายตลอดปี ไม่ต่างจากดินแดนในภาคเหนือ ก็คือวังน้ำเขียวเมืองแห่งการท่องเที่ยวอีกแห่ง ที่คุณสามารถเดินทางไปสัมผัสได้ทั้ง 3 ฤดู และเป็น 3 สีสันที่แตกต่าง คุณสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนี้ได้ตลอดปี โดยเฉพาะหน้าฝนที่พร่างพรมความชุ่มฉ่ำไปทั่ว ขับรถใกล้ ๆ มาท่องเที่ยววังน้ำเขียว สีเขียวของผืนป่าปกคลุมไปทั่ว สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแหล่งโอโซนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

    สถานที่่ท่องเที่ยว วังน้ำเขียว
    ด้วยลักษณะทั่วไปของวังน้ำเขียวที่เป็นภูขาสูงต่ำแบบลูกคลื่น สลับกับที่ราบกว่าร้อยละ 90 ของพื้นที่ทั้งหมด และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเฉลี่ยอยู่ที่ 200 - 700 เมตร ทำให้อำเภอวังน้ำเขียวมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบาย แม้ในฤดูร้อนยังมีอุณหภูมิสูงสุดเพียงแค่ 30 องศาเซลเซียสเท่านั้น นอกจากนี้เมื่อถึงฤดูหนาวสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็เย็นสบายไม่หนาวจัดจนเกินไป อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 9 องศาเซลเซียส ประกอบกับฤดูฝนที่ฝนนตกติดต่อกันมายาวนานถึง 5 เดือน ตั้งแต่มิถุนายน - ตุลาคม ทำให้วังน้ำเขียวมีสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปี จึงเป็นที่มาที่ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้ถูกเรียกขานว่า "สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน"

    ที่ตั้งของวังน้ำเขียวมีอาณาเขตติดต่อกับหลายอำเภอในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน ทั้งสองสถานที่ท่องเที่ยวนี้ก็นับได้ว่าเป็นผืนป่าดงพญาเย็นที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นมรดกแห่งอาเซียน และยังถูกเสนอ UNESCO จัดตั้งเป็นมรดกโลกด้วย เพียงแค่วังน้ำเขียวมีอาณาเขตติดต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก็นับว่าเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์แล้ว ท่านใดมาเที่ยววังน้ำเขียวแล้วก็แวะต่อที่สถานที่ท่องเที่ยวบนเขาใหญ่ได้

    พื้นที่ของอำเภอวังน้ำเขียวได้ถูกสำรวจพบว่าเป็นพื้นที่ที่มีก๊าซโอโซนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นก๊าซที่เกิดขึ้นมาเองมีหน้าที่ปกป้องหลังคาโลก ดูดซับรังสีที่มีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต และยังสามารถแตกตัวออกมาเป็นออกซิเจนอยู่ในชั้นบรรยากาศชั้นล่างเพื่อให้มนุษย์และสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ๆ ดำรงชีวิตอยู่ได้ การที่บางคนเปรียบเทียบว่าการมาสถานที่ท่องเที่ยววังน้ำเขียว เพื่อสูดโอโซน ก็หมายถึงการมาท่องเที่ยวพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์นั่นเอง

    สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและขึ้นชื่อในวังน้ำเขียวมีหลายแห่งด้วยกันเช่น การไปดูกระทิงที่เขาแผงม้า การไปสูดโอโซนในแหล่งที่ดีที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

    สถานที่ท่องเที่ยวดูกระทิงที่เขาแผงม้า

    สถานที่่ท่องเที่ยว
    การเดินทางไปชมกระทิงที่เขาแผงม้านั้นต้องใช้บริการของรถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรถกระบะจะสะดวกที่สุด ส่วนท่านที่ขับรถเก๋งส่วนตัวไปเที่ยว สามารถติดต่อชมรมนำเที่ยวที่ตำบลวังหมีให้พาชมก็จะชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้ครบถ้วนทุกซอกทุกมุม และสะดวกกว่ามาก โดนอันดับแรกจะต้องเดินทางตะลุยเข้าไปประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อเข้าไปยังหอดูกระทิง จากนั้นเป็นเส้นทางเท้าแบบวนรอบ ระยะทาง 1800 เมตร มีป้ายสื่อความหมายบอกทาวงจำนวน 9 จุด จากนั้นก็จะถึงจุดที่เป็น Hilight ของเส้นทางคือหอดูกระทิง ช่วงเวลาที่ดูกระทิงที่ดีที่สุดคือประมาณ 17.00 น. ถึงพลบค่ำ โอกาสที่จะพบเห็นกระทิงได้ดีที่สุดคือช่วงต้นฤดูฝน เดือนพฤษภาคม
    ติดต่อผู้นำอาสาสมัครพัฒนาชุมชนตำบลวังหมี 08-9838-6022


    สถานนีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช

    สถานที่่ท่องเที่ยว
    นอกจากไปดูกระทิงที่เขาแผงม้าแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในอำเภอวังน้ำเขียวที่อยากแนะนำให้ไปเที่ยวกันด้วยคือ สถานนีวิจัยสิ่งแวดล้อมกระแสราช ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของอำเภอวังน้ำเขียว ภายในสถานีได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็นเขตสงวนชีวมณฑล เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติ รวบรวมพันธุ์ไม้และสัตว์ป่ามากถึง 380 ชนิด โโยสามารถเดินเท้าศึกษาได้หลายเส้นทาง ถ้าท่านแจ้งการเยี่ยมชมล่วงหน้าจะมีเจ้าหน้าที่เป็นไกด์พาเดินพร้อมบรรยายให้ความรู้เพิ่มเติมด้วย ส่วนใครจะจัดสัมมนาที่นี่ก็มีห้องประชุมพร้อมรับรองด้วย
    โทรศัพท์ติดต่อ 0-4425-8624 หรือ 0-4424-2533

    อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง
    ลักษณะเด่นของอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงคือเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่โอบล้อมด้วยภูเขา จากมุมมองบริเวณริมอ่างเก็บน้ำฝั่งถนนลาดยางจะมองเห็นแนวสันเขาของอุทธยานแห่งชาติเขาใหญ่ทอดยาวผ่านไปเบื้องหลังอย่างสวยงาม ที่สำคัญคือเส้นทางลัดจากวังน้ำเขียวมายังอุทธยานแห่งชาติเขาใหญ่จะผ่านเส้นทางเลียบริมอ่างเก็บน้ำนี้ ขับชมวิวก็สะดวก หรือจะจอดดูนกน้ำ ตกปลาก็ยังได้ นอกจากนี้ในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็ยังบริการร้านอาหารและที่ัพักแบบเข้าพักได้หลายวันหลายคืนอีกด้วย


    สถานที่ท่องเที่ยวต่อเนื่องจากวังน้ำเขียว
    ขากลับถ้าขับรถออกจากวังน้ำเขียวเข้ากรุงเทพตามทางหลวงหมายเลข 304 ห่างจากวังน้ำเขียว 7 กิโลเมตร ก็จะพบกับอุทธยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นอุทธยานที่มีเสน่ห์ตรงที่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีต้นลานอยู่เป็นจำนวนมาก และจัดเป็นป่าลานที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย และเป็นป่าลานผืนสุดท้ายที่เหลืออยู่ หากคุณมาสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้นอกจากจะได้เดินทางศึกษาธรรมชาติและต้นลานขนาดต่าง ๆ แล้ว ยังมีเส้นทางเดินไปเที่ยวน้ำตกห้วยน้ำใหญ่ น้ำตกม่านฟ้า น้ำตกห้วยขมิ้น ส่วนใครอยากเที่ยวชมวิวพระอาทิตย์ตกสวย ๆ ต้องไม่พลาดไปที่จุดชมวิวผาเก็บตะวัน ซึ่งเดินทางจากตำบลไทยสามัคคี ที่นี่ก็ยังมีกิจกรรมปลูกป่าโดยให้คุณได้ยิงเมล็ดพันธ์ด้วยหนังสติ้ก หือหวดด้วยไม้กอล์ฟ ได้ปลูกป่าและได้ออกกำลังกายอีกด้วย
  • สถานที่ท่องเที่ยว ตามรอยปราสาทขอม

    Posted: 2010-10-03 10:08:56 UTC+07:00
    สถานที่ท่องเที่ยว ที่จะแนะนำวันนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในเมืองโคราชคือ ปราสาทหินพิมาย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ร่องรอยอารยธรรมของขอมโบราณที่ยังคงความงดงามและสะท้อนความรุ่งเรืองในอดีตให้อนุชนรุ่นต่อๆ มาได้เรียนรู้ ศึกษาพร้อมกับชื่นชมความงดงามและยิ่งใหญ่

    สถานที่ท่องเที่ยว ปราสาทหินพิมาย
    อำเภอพิมาย อันเป็นที่ตั้งของอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย สถานที่ท่องเที่ยวที่ดูจะเป็นจุดเริ่มต้นในการท่องเที่ยวปราสาทขอมของเมืองโคราช ที่สำคัญปราสาทหินพิมายแห่งนี้ยังเป็นปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และสวยที่สุดอีกด้วย จากอำเภอพิมาย ในโคราชยังมีปราสาทหินแหล่งอารยธรรมขอมอีกหลายแห่งให้เที่ยวชม สนุกกับการเที่ยวชมโบราณสถานและความรุ่งเรืองของขอมโบราณกันอย่างจุใจเลยทีเดียว

    ประวัติโดยย่อของสถานที่ท่องเที่ยวปราสาทหินพิมาย
    ปีที่สร้าง: พุทธศตวรรษที่ 16-17 (พ.ศ. 1724-1763)
    ลัทธิศาสนา: พุทธศาสนสถาน นิกายมหายาน
    ศิลปะแบบ: ปาปวนผสมผสานศิลปะแบบนครวัด
    กษัตริย์: พระเจ้าชัยวรมันที่ 7

    พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่มีงานสร้างปราสาทหินมากที่สุด หลังจากกอบกู้อาณาจักรขอมจากพวกจามแล้ว พระองค์ก็ทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ ในปี พ.ศ. 1724 พร้อมกับบูรณะราชธานีขึ้นมาใหม่ คือ "เมืองพระนครหลวง" หรือ "นครธม" และย้ายศูนย์กลางของราชธานีจากปราสาทปาปวนมายังปราสาทบายนที่สร้างขึ้นใหม่ ให้เป็นศาสนสถานในลัทธิมหายานแทน

    นอกเหนือจากการสงครามแล้ว พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้สร้างพุทธสถานไว้มากมาย เช่น สร้างปราสาทตาพรม ถวายพระมารดา สร้างปราสาทพระขรรค์ ถวายพระบิดา ปราสาทตาสม ปราสาทนาคพัน ปราสาทบันทายฉมาร์ อยู่ที่เมืองเสียมราฐ กัมพูชา ส่วนในเขตประเทศไทยยังมีปราสาทหินพิมายและปราสาทเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนาลัทธิมหายานด้วย

    นอกจากนี้ พระองค์ยังโปรดให้สร้าง "บ้านมีไฟ" หรือที่พักคนเดีนทาง ซึ่งก่อด้วยศิลา และจุดไฟไว้ตลอด หรือที่เรียกกันว่า "ธรรมศาลา" จากจารึกที่ปราสาทพระขรรค์กล่วาถึงที่พักคนเดินทางมีมากถึง 121 แห่ง อยู่ตามทางเดินทั่วราชอาณาจักร และตามทางเดินไปเมืองต่างๆ ในจำนวนนั้น มี 17 แห่งอยู่ระหว่างการเดินจากเมืองพระนครไปยังเมืองพิมาย แต่ละแห่งห่างกันประมาณ 12-15 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีการสร้างโรงพยาบาล หรือ "อโรคยาศาลา" จำนวน 102 แห่ง กระจายอยู่ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งมีส่วนหนึ่งอยู่ในเขตประเทสไทยด้วย

    พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสิ้นพระชนม์ราวปี พ.ศ. 1758 หรือ พ.ศ. 1762 เชื่อกันว่าทรงมีพระชนม์ชีพยืนยาวถึง 94 ปี ได้ฉลองพระนามหลังสวรรคตว่า "มหาบรมสุคตะ" หมายควาสมว่า พระพุทธเจ้าผู้ยิ่งใหญ่

    มีอะไรน่าสนใจในสถานที่ท่องเที่ยวปราสาทหินพิมาย

    ในสถานที่ท่องเที่ยวปราสาทขอมทั่วไปนั้น จุดเด่นจะคล้ายๆ คน เช่น ความงดงามของภาพจำหลัก ภาพสลัก ลักษณะของปราสาทหิน และถ้าจะให้ดีต้องรู้จักศิลปะในยุคต่างๆ รวมทั้งความเชื่อของการสร้างปราสาทด้วย

    สะพานนาคราช
    สถานที่ท่องเที่ยว ปราสาทหินพิมาย สะพานนาคราช
    เมื่อคุณเข้าไปในสถานที่ท่องเที่ยวชมปราสาทหินพิมายจะผ่านส่วนนี้เป็นที่แรก จะพบสะพานนาคราชและประติมากรรมรูปสิงห์ ตั้งอยู่ด้านหน้าของซุ้มประตูด้านทิศใต้ของปรางค์ประธาน ซึ่งเป็นด้านหน้าของปราสาท มีลักษณะเป็นรูปกากบาทยกพื้นขึ้นสูงจากพื้นดินประมาณ 2.50 เมตร ราวสะพานโดยรอบทำเป็นลำตัวพญานาค ชูคอแผ่พังพานเป็นนาคเจ็ดเศียร มีลำตัวติดกันเป็นแผ่น หันหน้าออกไปยังเชิงบันไดทั้งสี่ทิศ สะพานนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางเข้าสู่ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ตามคติความเชื่อเรื่องจักรวาล เชื่อว่าเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกสวรรค์ คตินี้ถือสืบกันมาในศาสนาฮินดูและพุทธศาสนานิกายมหายาน

    โคปุระ
    สถานที่ท่องเที่ยว โคปุระ
    ถัดจากสะพานนาคราชเข้ามาด้านใน คือ โคปุระ หรือซุ้มประตูและกำแพงชั้นนอก ตั้งอยู่กึ่งกลางของแนวกำแพงแก้ว โดยมีช่องประตูตรงกันทั้ง 4 ด้าน ผังของซุ้มประตูเป็นรูปกากบาท ก่อด้วยหินทราย มีผังเป็นรูปกากบาทและมีซุ้มประตูลักษณะเดียวกันนี้อีก 3 ทิศ คือ ทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก โดยมีแนวกำแพงสร้างเชื่อมต่อระหว่างกันเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาวจากเหนือถึงใต้ 277.50 เมตร ซุ้มประตูด้านทิศตะวันตกมีทับหลังชิ้นหนึ่งสลักเป็นรูปขบวนแห่งพระพุทธรูปนาคปรกที่ประดิษฐานอยู่เหนือคานหาม กำแพงชั้นนอกนี้เปรียบเสมือนเส้นแบ่งระหว่างโลกมนุษย์และสวรรค์

    บาราย
    สถานที่ท่องเที่ยว บาราย สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสานหรือ สระน้ำ ตั้งอยู่ที่มุมทั้งสี่ของลานชั้นนอกมีขนาดไม่เท่ากัน และตำแหน่งสถานที่ตั้งก็ไม่อยู่ในแนวตรงกัน แต่ก่อนบริเวณรอบบารายนี้ยังเคยเป็นที่ตั้งของวัดต่างๆ ซึ่งได้ย้ายออกไปสร้างใหม่ที่ด้านนอกปราสาทแล้ว มี 4 วัด คือ วัดสระหิน วัดพระปรางค์ใหญ่ วัดโบสถ์ (ซึ่งมีอุโบสถ เรียกกันว่า โบสถ์เจ้าพิมาย) และวัดพระปรางค์น้อย จากการที่เรียกชื่ออุโบสถว่าโบสถ์เจ้าพิมาย เพราะได้พบพระพุทธรูปสมัยอยุธยาตอนปลาย เมื่อครั้งกรมหมื่นเทพพิพิธมาสะสมกำลังตั้งตัวเป็นใหญ่ คราวเสียกรุงครั้งที่สอง เรียกว่า "ก๊กเจ้าพิมาย" ด้วย


    พลับพลา
    ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ากำแพงชั้นนอก ด้านซ้ายมือของทางเดินเข้าสู่ตัวปราสาท เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เดิมเรียกว่า "คลังเงิน" จากตำแหน่งที่ตั้งสันนิฐานว่าคงเป็นที่พักเตรียมพระองค์สำหรับกษัตริย์ หรือเจ้านายชั้นสูงที่เสด็จมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา รวมทั้งเป็นสถานที่พักจัดขบวนสิ่งของถวายต่างๆ จากการขุดแต่งบริเวณนี้เมื่อปี พ.ศ. 2511 ได้พบโบราณวัตถุจำนวนมาก มีทั้งรูปเคารพ เครื่องประดับ และเหรียญสำริด จึงเรียกกันต่อมาว่า "คลังเงิน"

    ชาลาเดินสู่ปราสาท
    ก่อสร้างด้วยหินทราย เชื่อมต่อระหว่างซุ้มประตูด้านทิศใต้ของระเบียงคดที่ล้อมรอบปราสาทประธาน โดยทำการเดินยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร แบ่งเป็น 3 ช่องทางเดิน ผังทำเป็นรูปกากบาท จากการบูรณะพบเศษกระเบื้องมุงหลังคาและบราลีดินเผาจำนวนมาก สันนิษฐานว่าเดิมคงเป็นระเบียงโปร่ง หลังคากมุงกระเบื้องรองรับด้วยเสาไม้

    บรรณาลัย
    สถานที่ท่องเที่ยว บรรณาลัย สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน
    หรือหอสมุด ตั้งอยู่บริเวณลานชั้นนอก ระหว่างกำแพงแก้วและซุ้มประตูระเบียงคด อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเป็นอาคาร 2 หลังขนาดเดียวกัน ผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายกพื้นสูง ก่อด้วยหินทรายกั้นเป็นห้องยาวตลอดแนว พบร่างรอยหลุมเสารูปสี่เหลี่ยมจตุรัส คาดว่าแต่เดิมคงเป็นหลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้อง เชื่อกันว่าบรรณาลัย คือสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา

    ทับหลัง-หน้าบัน
    ทับหลังของปราสาทหินพิมายอาจไม่โดดเด่นเท่าทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ เหมือนที่ปราสาทหินพนมรุ้ง เนื่องจากหักพังเสียหายจนไม่เหลือให้เห็น แต่มีส่วนของหน้าบันมีให้ชมอยู่หลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นภาพเล่าเรื่องราวรามเกียรติ์ โดยหน้าบันของมุขปราสาททั้ง 4 ด้าน มีภาพสลักต่างๆ คือ หน้าบันมุขด้านทิศใต้ สลักภาพพระอิศวรฟ้อนรำ หรือที่เรียกว่า "ศิวนาฏราช" หน้าบันมุขด้านทิศตะวันตกเป็นภาพพระกฤษณะยกเขาโควรรธนะ และเรื่องรามเกียรติ์ มุขด้านทิศเหนือเป็นภาพพระนารารยณ์สี่กร และการรบกันในเรื่องรามเกียรติ์ และมุขด้านทิศตะวันออกเป็นภาพเรื่องราวรามเกียรติ์ ตอนพระรามฆ่ายักษ์วิราธและท้าวมาลีวราชว่าความ

    ปรางค์ประธาน
    เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของปราสาท สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16-17 ตั้งอยู่กลางลานภายในระเบียงคต เป็นศุนย์กลางของศาสนสถานแห่งนี้ เป็นตัวแทนของเขาพระสุเมรุ ศูนย์กลางของจักรวาล องค์ปรางค์สร้างด้วยหินทรายสีขาวทั้งองค์ สูง 28 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมไม้สิบสองยาวด้านละ 22 เมตร ต่างจากซุ้มประตู (โคปุระ)และกำแพงชั้นใน และชั้นนอก ที่สร้างด้วยหินทรายสีแดงเป็นหลัก มีหินทรายสีขาวเป็นส่วนประกอบบางส่วน ส่วนประกอบสำคัญของปรางค์ประธานมี 2 ส่วน คือ ส่วนของมณฑป และ เรือนธาตุ ซึ่งมีการจำหลักลวดลายต่างๆ เช่น หน้าบัน ทับหลัง เสาประดับกรอบประตู ฯลฯ เล่าเรื่องราวรามเกียรติ์และเรื่องราวทางพุทธศาสนา ยกเว้นทางด้านทิศใต้ที่เป็นภาพศิวนาฏราช ภายในเรือนธาตุคือห้องครรภคฤหะประดิษฐานรูปเคารพ และมีท่อโสมสูตรไหลออกไปด้านนอก


    ภาพสลักต่างๆ
    สถานที่ท่องเที่ยว ภาพสลักต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน
    นอกจากภาพสลักที่หน้าบันด้านนอกแล้ว สิ่งที่บ่งบอกว่าปราสาทหินพิมายสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถาน คือ ภาพสลักอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่บนคานด้านในของห้องครรภคฤหะ โดยบนมุขด้านทิศใต้นั้นเป็นภาพสลักพระพุทธรูปปางนาคปรก มุขด้านทิศตะวันตกเป็นพระพุทธรูปปางเทศนาแก่พญามาร มุขด้านทิศเหนือเป็นพระพุทธรูปปางพระวัชรสัตว์ 5 พระองค์ และมุขด้านทิศตะวันออก เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องปางสมาธิ 10 องค์ นอกจากนี้ยังมีลวดลายวิจิตรที่สามารถเดินชมได้รอบปราสาท รวมทั้งปรางค์บริวารทั้ง 2 หลัง คือ ปรางค์พรหมทัต และปรางค์หินแดงด้วย

    เพิ่มความรู้ในสถานที่ท่องเที่ยวพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย

    พิพิธภัณฑฯ แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2507 โดยเริ่มจากการเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2532 กรมศิลปากรได้ปรับปรุงใหม่จนเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัย บางการจัดแสดงออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือชั้นบน จัดแสดงเรื่องราวพัฒนาการของสังคมในดินแดนแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและอารยธรรม ความเชื่อ และอิทธิพลทางวัฒนธรรมต่างๆ ในแต่ละยุคสมัย ส่วนที่สองอยู่ชั้นล่าง จัดแสดงโบราณวัตถุร่วมสมัยศิลปเขมร โบราณคดีและประวัติศาสตร์พิมาย และส่วนสุดท้ายเป็นอาคารจัดแสดงกลางแจ้ง เป็นการรวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เข้าชมได้ตั้งแต่วันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. โทรศัพท์ 0 4447 1167
  • สถานที่ท่องเที่ยว ไหว้ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร

    Posted: 2010-09-30 10:35:24 UTC+07:00
    วันนี้ขอแนะนำศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจใกล้ ๆ บ้าน สำหรับคนที่อยู่กรุงเทพมหานคร และสำหรับท่านที่อยู่ต่างจังหวัดเข้ามาท่องเที่ยวที่กรุงเทพฯ ก็แนะนำให้มาไหว้สักการะศาลหลักเมืองแห่งนี้

    สถานที่ท่องเที่ยว
    ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บริเวณมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของท้องสนามหลวง ตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  ดังนั้นถ้าจะเดินทางมาสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็มาที่ท้องสนามหลวงก่อนก็ได้จากนั้นก็เดินเท้าต่อ คุณอาจจะเห็นพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งถ้าไหว้ศาลหลักเมืองแล้วก็อาจจะเข้าไปเที่ยวชมต่อได้ด้วย

    เข้ามาด้านในศาลหลักเมืองก็จะเห็นบรรยากาศผู้คนเข้ามาสักการะบูชาสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้กันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แนะนำให้ซื้อดอกไม้ธูปเทียนที่ด้านในศาลหลักเมืองจะดีกว่าดอกไม้ธูปเทียนด้านนอก เพราะเป็นการทำบุญในตัวด้วย

    ด้านในจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้คำแนะนำรวมถึงเล่าประวัติต่าง ๆ ของศาลหลักเมืองแห่งนี้ด้วย ถ้าคุณต้องการข้อมูล หรือมีข้อสงสัยใด ๆ ก็สามารถสอบถามจากเจ้าหน้าที่ได้เลย

    สถานที่ท่องเที่ยว
    เมื่อเข้ามาแล้วก็นั่งพักผ่อนหย่อนใจสักหน่อย เพราะด้านในมีสวนหย่อมเล็ก ให้นั่งพักมีต้นไม้ร่มรื่นจัดไว้อย่างสวยงาม พอหายเหนื่อแล้วก็ติดต่อทำบุญโดยการบริจาคเงินซื้อดอกไม้ธูปเทียน และกล่าวคำสักการะศาลหลักเมือง และถ้าท่านใดต้องการถามถึงโชคลาภ วาสนา ด้านในก็มีเซียมซีให้ได้ทำนายดวงชะตาและหาวิธีแก้ไขล่วงหน้าด้วย

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพ
    จากนั้นเข้าไปด้านในอาคารศาลหลักเมือง จะเห็นเสาหลักเมืองทั้งสองต้น สอบถามประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องเกี่ยวกับศาลหลักเมืองจากเจ้าหน้าที่ด้านใน ข้อมูลที่แท้จริงของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นอย่างไรจะเหมือนในละครทีวี หรือเป็นเหมือนที่เล่าต่อ ๆ กันมาหรือไม่ ผมขอเก็บไว้ไม่เล่าต่อ ซึ่งถ้าคุณอยากรู้ต้องแวะไปเองครับ

    เมื่อออกมาจากอาคารศาลหลักเมืองแล้วก็อย่าเพิ่งไปไหน เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ยังมีซุ้มสำหรับประดิษฐานเทพารักษ์ทั้ง ๕ คือเจ้าพ่อหอกลอง เจ้าพ่อเจตคุปต์ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง และพระกาฬไชยศรี มีการจัดละครรำ ละครชาตรี ให้ผู้ต้องการบูชา ว่าจ้างรำบูชาศาลหลักเมืองอยู่ด้านข้าง

    สถานที่ท่องเที่ยว
    สำหรับใครที่ต้องการตั้งหลักหรือต้องการตั้งสติเริ่มต้นใช้ชีวิตก็แนะนำให้ไปสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้และกราบไหว้สักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครเพื่อเป็นหลักชัยให้ชีวิตครับ
  • สถานที่ท่องเที่ยว น่าสนใจในเขตอำเภอทองผาภูมิ

    Posted: 2010-09-27 16:57:05 UTC+07:00
    อำเภอทองผาภูมิ เป็นเพียงอำเภอหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว วันนี้ผมจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว 11 แห่งในทองผาภูมิให้รู้จักและถ้าสนใจก็เชิญชวนไปอุดหนุนการท่องเที่ยวไทยกันครับ

    แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขตอำเภอทองผาภูมิมีดังนี้

    สถานที่ท่องเที่ยว
    พุน้ำร้อนหินดาด เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติริมลำธาร ค้นพบโดยทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้สร้างเป็นบ่อซีเมนต์ขึ้น 2 บ่อ เชื่อกันว่าน้ำแร่จากบ่อน้ำร้อนของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ มีสรรพคุณในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บหลายอย่าง เช่น โรคเหน็บชา ไขข้ออักเสบ การเดินทาง สามารถเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 323 กิโลเมตรที่ 105-106 อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 130 กิโลเมตร

    น้ำตกผาตาด เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เกิดจากลำห้วยเล็กๆ บริเวณเทือกเขากะลา มีความสวยงามของชั้นน้ำตกลดหลั่นกันไปถึง 3 ชั้น มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี 140 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 323 ช่วงกิโลเมตรที่ 105-106 ทางเดียวกับภุน้ำร้อนหินดาด เลยเข้าไปประมาณ 10 กิโลเมตร

    น้ำตกผาสวรรค์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มี 7 ชั้น ชั้นสูงสุดประมาณ 80 เมตร ตัวน้ำตกอยู่ในป่าลึกต้องเดินทางเข้าไปประมาณ 40 นาที การเดินทางมาสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ น้ำตกอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 155 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ บริเวณกิโลเมตรที่ 110 ผ่านบ้านสหกรณ์นิคมเข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร และเลี้ยวขวาเข้าทางแยกดินลูกรังอีก 13 กิโลเมตร หรือใช้เส้นทางเชื่อมต่อจากน้ำตกผาตาดแล้วเดินเท้าต่ออีก 40 นาที หรือจะใช้เส้นทางจากน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ผ่านเหมืองเนินสวรรค์ หมู่บ้านสะพานลาว ระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตร ถึงทางแยกบริเวณโครงการปลูกป่าเลี้ยวซ้ายอีก 13 กิโลเมตร ถึงที่จอดรถ เดินเท้าต่ออีก 40 นาทีก็จะถึง ถ้าเดินทางในฤดูฝนควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ

    สถานที่ท่องเที่ยว
    เขื่อนวชิราลงกรณ เดิมชื่อเขื่อนเขาแหลมตั้งอยู่ที่ตำบลท่าขนุน เป็นเขื่อนหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 92 เมตร สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร ยาว 1,019 เมตร กั้นลำน้ำแควน้อย เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำอเนกประสงค์ บริเวณเหนือเขื่อนมีทิวทัศน์สวยงาม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 0 3459 9077 ต่อ 2502, 2509, 0 3459 8030 หรือที่กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2436 6046-8 สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีไปตามทางหลวงหมายเลข 323 เหนืออำเภอทองผาภูมิประมาณ 6 กิโลเมตร

    อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีเนื้อที่ประมาณ 700,000 ไร่ อยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 60 กิโลเมตร ตามทางหลวง 3272 มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายจุด สำหรับจุดชมวิวทิวทัศน์มี 2 แห่ง คือ ดอยต่องปะแล ซึ่งต้องจอดรถและเดินขึ้นเขาไปประมาณ 300 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นน้ำตกจ๊อกกะดิ่นอยู่ไม่ไกล ส่วนเนินกูดดอย สามารถนำรถขึ้นไปจอดได้ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นจุดชมวิวทิวเขาซับซ้อนสุดสายตา มองเห็นทะเลสอบเขื่อนเขาแหลมและเขาช้างเผือก ภูเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ มีบริการบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โทรศัพท์ 0 1382 0359 หรืออุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตู้ ปณ. 18 อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 21110

    เหมืองปิล็อก ตั้งอยู่ในตำบลปิล็อก ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิ ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 3272 ในอดีตเคยมีการทำเหมืองแร่ดีบุกและวุลแฟรมกันมากบนเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า ระหว่างทางสามารถแวะชม "ปิล็อกฮิลล์" สถานที่ปลูกไม้ผลและไม้ประดับเมืองหนาว ซึ่งอยู่ห่างจากทองผาภูมิ ประมาณ 32 กิโลเมตร

    อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ลำคลองงูเป็นชื่อของลำห้วย ซึ่งไหลวกวนและสลับซับซ้อนผ่านกลางผืนป่า กัดเซาะเพิงผาเทือกเขาหินปูนกลายเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ ภายในอุทยานฯ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จึงมีถ้ำหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่น

    ถ้ำเสาหิน อยู่ห่างจากปากห้วยลำคลองงู 6 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นเสาหินขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหว่านอยู่กลางถ้ำ วัดความสูงจากพื้นถึงยอดเสาได้ 62.5 เมตร ถือว่าเป็นเสาหินที่สูงที่สุดเท่าที่เคยพบมา ช่วงเวลาที่สามารถเข้าชมถ้ำเสาหินได้คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนเท่านั้น เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนระดับน้ำในถ้ำจะสูงมาก ไม่เหมาะแก่การเข้าชม

    สถานที่ท่องเที่ยว
    ถ้ำนกนางแอ่น อยู่บริเวณตอนกลางของห้วยลำคลองงู เป็นถ้ำขนาดใหญ่มาก ลักษณะเป็นถ้ำทะลุ มีลำห้วยคลองงูไหลผ่าน เช่นเดียวกับถ้ำเสาหินมีความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร

    ถ้ำน้ำตก เป็นถ้ำน้ำลอดเช่นเดียวกับถ้ำเสาหิน และถ้ำนกนางแอ่น แต่มีความพิเศษกว่า คือธารน้ำใต้ดินภายในถ้ำและไหลลดหลั่นกันลงมา ก่อให้เกิดน้ำตกสูงถึง 17 ชั้น ชั้นที่สูงสุดถึง 20 เมตร ถ้ำมีความยาวประมาณ 2,710 เมตร

    ถ้ำใหญ่ เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ ปากทางเข้ากว้างประมาณ 50 เมตร ภายในถ้ำสามารถจุดคนได้หลายพันคน เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี อยู่ห่างจากถ้ำน้ำตกประมาณ 1 กิโลเมตร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ตู้ ปณ.4 ปทจ.ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180
  • เที่ยว 2 วัน 1 คืนใน สถานที่ท่องเที่ยว บนอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ตอนที่2

    Posted: 2010-09-29 03:47:53 UTC+07:00
    ในตอนที่แล้วผมเล่าถึง สถานที่ท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวซึ่งเป็นการเดินทางจากทางหลวงหมายเลข 12 ซึ่งระหว่างทางมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เราแวะพักผ่อนหย่อนใจและท่องเที่ยวผจญภัยอยู่หลายแห่ง เช่น น้ำตกเหวทราย น้ำตกทรายทอง จุดชมวิวทิวทัศน์ภูค้อ และถ้ำผาหงษ์เป็นต้น

    หลังจากตื่นนอนเช้าวันนี้หากคุณอยากชมรถไปที่จุดชมวิวภูค้อ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 4 กิโลเมตร แล้วจึงกลับมากินมื้อเช้าที่อุทยานฯ ได้

    สายๆ ไปท่องเที่ยวต่อที่สวนสนดงแปก ซึ่งเส้นทางไปสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นเส้นทางเดินเท้าระยะทาง 5 กิโลเมตร คุณควรเตรียมข้าวกล่องและน้ำดื่มไปด้วยเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศไปกินข้าวกลางป่าปิกนิกท่ามกลางธรรมชาติ จุดเริ่มต้นเดินเท้าอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 49 เป็นเส้นทางสบายๆ เดินไม่ยากเพื่อที่จะเข้าไปชมป่าสนสองใบที่ขึ้นอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ ซึ่งแทบจะไม่มีต้นไม้อื่นขึ้นแซมอยู่เลย คล้ายกับสวนสนภูกุ่มข้าว เพียงแต่ต้นสนที่นี่จะเป็นคนละชนิดกัน นอกจากนี้ในเส้นทางเดินเท้ายังผ่านผืนป่าที่หลากหลายทั้งป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา ระหว่างทางยังอาจพบเห็นสัตว์ป่าและนกอีกหลายชนิด จึงเหมาะเป็นเส้นทางดูนกได้อีกด้วย ช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม เป็นช่วงเวลาที่กล้วยไม้ป่าหลายชนิดออกดอกให้ชมอย่างสวยงามด้วย

    สนสองใบมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pinus merkusii Jungh.&de Vriese จัดอยู่ในวงศ์ PINACEAE และยังมีชื่อเรียกอื่นๆ อีกเช่น เกี๊ยเปลือกดำ (ภาคเหนือ) เกี๊ยเปลือกหนา (เชียงใหม่) จ๋วง (ภาคเหนือและภาคตะวันออก-เฉียงเหนือ) เชียงเซา (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) โช (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่) ไต้ (อุบลราชธานี และ-ศรีสะเกษ) แปก (ฉาน-แม่ฮ่องสอนและเลย) สนเขา สนหางม้า (ภาคกลาง) สะรอล (เขมร-สุรินทร์)

    สถานที่ท่องเที่ยว น้ำตก เพชรบูรณ์
    สนสองใบเป็นไม้ต้น มีความสูงเฉลี่ย 30-40 เมตร ลำต้นตรง ต้นที่มีอายุน้อยจะมีเรือนยอดรูปเจดีย์ แล้วแผ่กว้างเป็นพุ่มกลมเมื่ออายุมากขึ้น มีเปลือกหนาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำแตกเป็นร่องลึกตามยาว ลักษณะใบเป็นรูปเข็มยาว 15-25 เซนติเมตร ออกตามปลายกิ่ง ติดเป็นกลุ่มๆ ละ 2 ใบ ออกดอกช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม โดยจะออกดอกเป็นช่อแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน ช่อดอกตัวผู้ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่งทั่วเรือนยอด ช่อตัวเมียมีสีม่วง ออกครั้งละ 1-3 ช่อ ตามปลายกิ่งใหญ่ที่อยู่ในระดับสูงๆ และมีขนาดใหญ่กว่าดอกตัวผู้ ลักษณะของผลจะออกรวมกันเป็นกลุ่ม เรียกว่า cone รูปทรงกระบอก กว้างประมาณ 5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร มีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก ถิ่นกำเนิดของสนสองใบอยู่ในเอเชีย ชอบขึ้นอยู่บนภูเขา ที่มีความสูงจากระดับทะเลตั้งแต่ 50-1,300 เมตร

    ส่วนสนสามใบ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pinus kesiy Royie ex Gordon จัดอยู่ในวงศ์เดียวกันกับสนสองใบ และมีชื่อเรียกตามท้องถิ่นว่า เกี๊ยเปลือกแดง, เกี๊ยเปลือกบาง, จ๋วง, เซี๊ยงบั้ง, แปก และสนเขา เป็นไม้ต้นความสูงเฉลี่ยประมาณ 10-30 เมตร ลำต้นตรง เรือนยอดเป็นพุ่มกลม เปลือกมีสีน้ำตาลอมชมพูอ่อน ล่อนออกเป็นสะเกดรูปตาข่ายและมักมียางสีเหลืองซึมออกมาตามรอยแยก ลักษณะใบรูปเข็มจะออกเวียนสลับถี่ตามปลายกิ่งติดเป็นกลุ่มๆ ละ 3 ใบ ออกดอกบนต้นเดียวกัน แต่ช่อดอกตัวผู้จะมีสีเหลืองแบบหางกระรอก มีผลเป็นกลุ่มเรียกว่า cone รูปไข่ สีน้ำตาล สนสามใบนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากพม่า และชอบขึ้นอยู่เป็นกลุ่มบนเนินเขาที่ความสูงตั้งแต่ 1,000-1,600 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

    หลังจากชื่นชมควาสมงามของสนสองใบในสวนสนดงแปกแล้ว เดินเท้ากลับออกมาช่วงบ่ายนิดๆ ค่อยขับรถไปท่องเที่ยวเขาค้อกันต่อ หรือจะไปที่สถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าในจังหวัดพิษณุโลกก็ได้ ส่วนใครที่นอนค้างแรมที่น้ำหนาวอีกคืน ช่วงบ่ายกลับไปพักผ่อนที่อุทยานฯ ในวันรุ่งขึ้นจึงเดินทางไปเที่ยวชมน้ำตกเหวตาดหมอก น้ำตกตาดใหญ่ และน้ำตกตาดพรานบากันต่อ

    ใกล้ ๆ กันนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีก 3 แห่งคือน้ำตกเหวตาดหมอก น้ำตกตาดใหญ่ และน้ำตกตาดพรานบา ทั้ง 3 น้ำตกนี้อยู่ในเส้นทางเดียวกับทางไปอำเภอน้ำหนาว หากคุณอยู่ที่ที่ทำการอุทยานฯ ให้ขับรถกลับไปทางจังหวัดขอนแก่น จากนั้นจะพบสามแยกเลี้ยวซ้ายไปอำเภอน้ำหนาว เลี้ยวซ้ายตามทางลาดยางไปประมาณ 6 กิโลเมตร จะถึงบ้านโคกมน เลี้ยวขวาเข้าไปทางวัดโคกมนประมาณ 300 เมตร จอดรถที่ลานวัดแล้วเดินเข้าไปชมวิวน้ำตกเหวตาดหมอกชั้นบนได้ น้ำตกเหวตาดหมอกเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามไม่แพ้น้ำตกเหวทราย สายน้ำไหลจากลำธารที่ดูธรรมดาไปตกลงหน้าผากว้างและสูงชัน มีจุดชมวิวน้ำตกที่ห่างออกไปอีก 500 เมตร แต่เส้นทางยังไม่เปิดเที่ยวเป็นทางการ จึงต้องให้ชาวบ้านพาเข้าไปชม

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ
    ขับเลยจากน้ำตกเหวตาดหมอกไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือตามป้ายบอกทางไปชมน้ำตกตาดใหญ่ จากทางแยกเป็นทางลูกรังที่เหมาะสำหรับรถปิ๊กอัพหรือขับเคลื่อนสี่ล้อ ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ถึงลานจอดรถแล้วลงเดินอีกเพียงนิดเดียว ก็ได้ชมวิวน้ำตกตาดใหญ่แล้ว นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตกน่าเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของอำเภอน้ำหนาว เป็นทางลูกรังเข้าไป 3 กิโลเมตร ถึงลานจอดรถแล้วเดินเท้าไปเพียง 150 เมตร จะถึงน้ำตกตาดพรานบา ซึ่งสายน้ำจะไหลผ่านลำธารหินลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม

    ทั้ง 3 น้ำตกนี้ เหมาะมาเที่ยวชมเฉพาะช่วงฤดูฝนเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงที่สวยที่สุด เพราะช่วงอื่นๆ น้ำน้อยวิวน้ำตกไม่สวย


    ถ้าคุณยังมีเวลาเหลือ จะไปเที่ยวต่อที่สถานที่ท่องเที่ยวถ้ำใหญ่น้ำหนาวตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ นน.6 (ถ้ำใหญ่น้ำหนาว) ถ้าขนาดใหญ่ความลึก 4.5 กิโลเมตร ที่มีความงดงามวิจิตรพิศดารของหินงอกหินย้อย และมีน้ำไหลรินออกมาจากปากถ้ำ จึงเรียกอีกชื่อว่า ภูน้ำริน ภายในถ้ำเป็นถิ่นอาศัยของค้างคาวหายากหลายชนิด เช่น ค้างคาวมงกุฏมาร์แชล ค้างคาวหูหนูยักษ์ ค้างคาวท้องน้ำตาลใหญ่ เป็นต้น

    จบการเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวแบบครบทุกรส ขากลับเลือกกลับผ่านทางจังหวัดขอนแก่น หรือผ่านทางจังหวัดชัยภูมิก็ได้ครับ
  • 2 วัน 1 คืนในสถานที่ท่องเที่ยวที่หนาวตั้งแต่ยอดดอยสูงจนถึงในน้ำ

    Posted: 2010-09-24 18:02:48 UTC+07:00
    แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเพชรบูรณ์มาหลายแห่งแล้ว แต่แนะนำยังไงก็ไม่หมดเสียที เพราะจังหวัดนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเหลือเกิน

    ทางหลวงหมายเลข 12 นับว่าเป็นเส้นทางเชื่อมภาคอีสานและภาคเหนือเข้าด้วยกัน และจะมีสักกี่ถนนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เช่นทางหลวงทางหลวงสายนี้ จากขอนแก่น ผ่านชุมแพ ไปหล่มสัก เข้าสู่จังหวัดพิษณุโลกมีอุทยานยานที่น่าท่องเที่ยวอยู่แห่งหนึ่ง เป็นการท่องเที่ยวในหน้าหนาวที่มีคนนิยมมาท่องเที่ยว เพราะมาที่นี่ไม่ได้หนาวเพียงแค่บนดอยสูงแต่ว่ากันว่าในฤดูหนาวนั้นอุทยานแห่งนี้จะหนาวตั้งแต่ยอดดอยสูงจนถึงในน้ำทีเดียว สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็คืออุทยานแห่งชาติน้ำหนาวนั่นเอง

    อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวมีพื้นที่ทั้งหมด 603,750 ไร่ หรือประมาณ 966 ตารางกิโลเมตร ได้รับการจัดตั้งแห่งชาติลำดับที่ 5 ของประเทศไทย ภูมิประเทศของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นแนวเทือกเขาที่กั้นระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือ พื้นที่ส่วนหนึ่งของเทือกเขานี้ยังเป็นอุทธยานแห่งชาติตาดหมอก และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูเขาเขียว ในจังหวัดชัยภูมิด้วย โดยยอดเขาสูงสุดของอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวคือยอดภูผาจิต หรือเรียกว่าภูด่านอีป้อง มีความสูง 1,271 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

    สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวมีคงามหลากหลายของป่าไม้ ทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ และที่พิเศษคือป่าสนเขา ซึ่งมีทั้งสนสองใบ และสนสามใบ เมื่อสิ้นสุดฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อนจะมีการผลัดใบของป่าทำให้เกิดเป็นปรากฎการณ์ป่าเปลี่ยนสีที่งดงามมาก ความพิเศษที่สุด อีกอย่างหนึ่งของอุทธยานแห่งนี้ และทางหลวงหมายเลข 12 นี้เองที่ตัดผ่านป่าเขาแห่งนี้ทำให้การเดินทางสะดวกสะบายและได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพรอย่างเพลิดเพลินขณะเดินทาง

    ถ้าคุณเดินทางมาจากจังหวัดขอนแก่นสามารถแวะท่องเที่ยวชมน้ำตกเหวทรายก่อน ซึ่งจะอยู่บริเวณทางหลวงหมายเลข 12 บริเวณกิโลเมตรที่ 67 จอดรถไว้แล้วเดินทางเข้าไปเป็นระยะทางเพียง 1 กิโลเมตร น้ำตกเหวทรายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 20 เมตร ต้นน้ำเิกิดจากลำห้วยสนามทราย เป็นลำธารธรรมชาติที่แบ่งเขตระหว่างอำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอคอนสารจังหวัดชัยภูมิ ใต้น้ำตกมีแหล่งลงเล่นน้ำได้ และชะง่อนหินเป็นเพลิงเดินเข้าไปหลบฝนได้ แต่หากคุณมาชมวิิวในน้ำตกช่วงฤดูฝนจะมีน้ำมากซึ่งเป็นช่วงที่สวยที่สุด

    สถานที่ท่องเที่ยว น้ำตกทรายทอง
    ถัดจากน้ำตกเหวทรายไปเพียง 500 เมตร มีน้ำตกอีกแห่งที่น่าไปท่องเที่ยวเช่นกันคือ น้ำตกทรายทอง ชั้นน้ำตกสูงเพียง 4 เมตร แต่เป็นน้ำตกที่กว้างมากประมาณ 30 เมตร รอบ ๆ มีบรรยากาศร่มรื่น ช่วงฤดูฝนน้ำจะไหลผ่านหน้าผานี้เป็นม่านน้ำตกที่สวยงามมาก เมื่อเที่ยวน้ำตกเสร็จแล้วก็เดินทางต่อพักทานมื้อเที่ยง

    ตอนบ่ายอยากชวนคุณไปขับรถท่องเที่ยวที่สวนสนภูกุ่มข้าว ซึ่งก็ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 12 เช่นกัน อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 53 แต่จะต้องเข้าทางแยกไปตามถนนลูกรังอีกประมาณ 15 กิโลเมตร ชื่อของสถานที่ท่องเที่ยวภูกุ่มข้าว ถูกเรียกตามเนินเขาเตี้ย ๆ ลูกหนึ่งที่ชื่อว่า ภูกุ่มข้าว มีความสูงประมาณ 880 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีอาณาบริเวณกว่า 10 ตารางกิโลเมตร บนเขาลูกนี้เป็นป่าสนเกือบทั้งหมด แทบจะไม่มีต้นไม้อื่น ๆ เลย มีเพียงต้นหญ้าคา หญ้าเพ็กวึ่งเป็นพืชพื้นล่างปกคลุม ป่าสนที่ภูกุ่มข้าวนี้เป็นสนสามใบ และมีลำต้นสูงใหญ่ ตั้งแต่ 30-40 เมตร เมื่อขึ้นไปยืนอยู่บนยอดภูกุ่มข้าวจะมองเห็นทิวทัศน์เรือนยอดต้นสนเป็นทิวยาวติด ๆ กันเป็นพืดทั้ง 4 ทิศ ในวันที่อากาศแจ่มใสจะมองเห็นทิวทัศน์ได้ไกลถึงอ่างเก็บน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ ในจังหวัดชัยูภูมิซึ่งอยู่ทางทิศใต้อย่างชัดเจน
    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ

    เริ่มบ่ายแก่ ๆ ออกเดินทางต่อขับรถไปแวะที่ภูค้อซึ่งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 46 ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์สวยงามมองเห็นผืนป่าดงสนภูกุ่มข้าว และยอดภูผาจิตได้อย่างงดงาม ในภูค้อจะมีเส้นทางประมาณ 4 กิโลเมตรสำหรับนักท่องเที่ยวได้เดินศึกษาธรรมชาติจากภูค้อไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว นอกจากนี้ในตอนเช้าจุดนี้ยังนิยมใช้เป็นจุดชมวิวพระอาทิตขึ้นอีกด้วย

    ก่อนเข้าหาที่พักปิดท้ายวันแรกด้วยการชมวิพระอาทิตย์ตกที่จุดชมทิวทัศน์ถ้ำผาหงษ์ อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 39 จอดริมทางแล้วเดินเท้าเข้าไปสถานที่นี้อีกเพียง 300 เมตร จะถึงถ้าผาหงษ์ แม้ว่าเป็นถ้าขนาดเล็กที่ภายในเป็นซอกหลืบแคบ ๆ แต่มีหินงอกและหินย้อยที่สวยงาม และยังเป็นที่อาศัยของค้างคาวหลายชนิด โดยเฉพาะค้างคาวมงกุฏมาร์แชล ซึ่งหาชมได้ค่อนข้างยากและใกล้สูญพันธุ์ เที่ยวเดินถ้าเสร็จก็เดินต่อไปอีก 200 เมตร เป็นจุดชมวิวผาหงษ์ ลักษณะเป็นภาสูงมีชะง่อนหินค่อนข้างคม รอบ ๆ เป็นป่าไผ่ร่มรื่น จุดชมวิวนี้ทำให้เรามองเห็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์และยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามมากทีเดียว

    ค่ำแล้วติดต่อที่พักที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ซึ่งสถานที่แห่งนี้ได้จัดเตรียมที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวให้บริการหลายหลัง แบ่งเป็น ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โซนที่ทำการอุทธยาน นอกจากนี้ยังมีค่ายเยาวชนอีก 2 หลังแยกชาย-หญิง พร้อมห้องน้ำแยก รวมถึงลานกลางเต็นท์ให้เลือกนอนแรมอีก 3 จุด คนที่ไม่ได้เตรียมเต็นท์มาด้วยก็สามารถติดต่อเช่าเต็นท์ได้ที่อุทธยานได้ แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวก็ควรจะจองห้องพักหรือเตรียมเต็นท์มาด้วยตนเองก็จะสะดวกที่สุดครับ

    คืนนี้ขอนอนก่อนพรุ่งนี้ไปท่องเที่ยวกันต่อที่ไหนดีอย่าลืมติดตามอ่านตอนต่อไปครับ

    ติดต่อสถานที่ท่องเที่ยวอุทธยานแห่งชาติน้ำหนาว โทรศัพท์ 0-5681-0724 หรือ 08-1962-6236
  • ม่อนปุยหมอก สถานที่ท่องเที่ยวที่เปรียบเหมือนทะเลหมอก

    Posted: 2010-09-20 20:39:21 UTC+07:00
    ม่อนปุยหมอก สถานที่ท่องเที่ยวที่ฟังชื่อแล้วดูเก๋ไก๋น่ารักๆ อยู่ที่ไหน และมีความเป็นมาอย่างไรนั้นต้องติดตามอ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำในบทความนี้ให้จบครับ

    ม่อนปุยหมอกตั้งอยู่ในจังหวัดตาก ดินแดนตะวันตกที่มีแนวขอบประเทศติดกับพม่า "ม่อนปุยหมอก" ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย ถ้าบอกว่าแต่เดิมคือ ม่อนกระทิงที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเมื่อสัก 20 ปีที่ผ่านมา

    ม่อนปุยหมอก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่เมย เป็นเส้นทางที่ต้องเดินป่าขึ้นไปบนยอดเขาสูง ซึ่งอยู่ทางด้านที่ทำการอุทยานฯ เดินขึ้นไปยังยอดเขาอีก 3-4 กม. ใช้เวลาเดินป่าไปประมาณ 4-5 ชม. และต้องพักค้างแรมบนยอดเขา ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น เราจึงต้องเตรียมเต็นท์ ถุงนอน เครื่องกันหนาว และเสบียงอาหารไปให้เพียงพอ

    สถานที่ท่องเที่ยว ม่อนปุยหมอก

    ปกติแล้วในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเมยชายแดนประเทศไทยแห่งนี้จะเป็นแหล่งความชุ่มชื้นที่เกิดจากผืนป่าและลำน้ำที่สมบูรณ์ เราจึงสามารถพบเห็นทะเลหมอกที่อุทยานฯ แม่เมยได้ทุกฤดูกาล ยกเว้นช่วงสภาพปิดหรือเปลี่ยนแปลง หากว่าเป็นช่วงหน้าหนาว แหล่งทะเลหมอกที่แม่เมยแห่งนี้จะไม่สร้างความผิดหวังแม้แต่น้อย

    จุดเด่นในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย มีม่อนกิ่วลม เป็นจุดเดียวที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้ ส่วนม่อนพูนสุดา ม่อนครูบาใส เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกได้เช่นกัน ไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้น เนื่องจากเป็นมุมด้านตะวันตก อีกทั้งมิติของทิวทัศน์ยังแบนราบสู้มุมที่ม่อนกิ่งลมไม่ได้ เนื่องด้วยมีเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นมุมมองที่สวยกว่าหลายเท่า

    จากแยกบ้านแม่สลิด ขึ้นไปตามเส้นทางสูงชันและคดเคี้ยว สิบกิโลเมตรแรกก็มาถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เมยจัดการเรื่องความพร้อมสำหรับเดินป่าขึ้นไปยังม่อนปุยหมอก มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำทาง พร้อมลูกหาบแบกสัมภาระส่วนหนึ่ง โดยมีเส้นทางเดินตัดขึ้นเขาตามเส้นทางลำลองที่อยู่ด้านหลังที่ทำการอุทยานฯ เลียบเลาะสายน้ำใสๆ ผ่านแนวป่าทึบ การเดินทางของเราเป็นไปอย่างช้าๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการถ่ายภาพในช่วงระหว่างทางที่ผ่าน บางช่วงต้องปีนป่ายเนินผาหินชัน จนกระทั่งมาพบกับน้ำตกผาเทวะ เป็นน้ำตกขนาดปานกลางที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบ มีขนาดความสูงและความสวยงามอยู่พอประมาณ เป็นสายน้ำตกที่ไหลลงไปหล่อเลี้ยงความชุ่มชื้นและเติมเต็มบรรยากาศในบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ให้สวยงามราวกับสวนหย่อม เมื่อเดินขึ้นถึงสันเขาก็ยังมีมุมมองที่เห็นสายน้ำตกผาเทวะไหลจากผาสูงซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบ

    สถานที่ท่องเที่ยว ม่อนปุยหมอก
    ผ่านเนินเขาลูกรแกจนกระทั่งมาถึงบริเวณทุ่งหญ้าสีทองสวยงามเป็นพิเศษ เพราะเป็นหญ้าเส้นผมยาว แตกต่างจากทุ่งหญ้าแห่งอื่นๆ ที่เคยเห็นมา แนวทุ่งหญ้าพริ้วตัวตามจังหวะกระแสลมที่พัดผ่าน เป็นความงดงามที่มหัศจรรย์ที่ได้พบในเส้นทางสู่ยอดดอยม่อนปุยหมอก

    เมื่ออยู่บนสันเขาสูงเส้นทางเดินป่าค่อนข้างสบายๆ มีแนวสันเขาเชื่อมตื่อไปยังยอดต่างๆ จนกระทั่งมาถึงสันเขาที่เป็นยอดสูงสุดของม่อนปุยหมอก มีทำเลกางเต็นท์พอใช้ได้ มีจุดชมวิวอยู่ไม่ไกลตั้งอยู่บนแนวสันเขาด้านล่าง สามารถมองเห็นร่องหุบแม่น้ำเมยที่กั้นพรมแดนไทย-พม่า ได้ตลอดแนว พร้อมกับเทือกเขาสลับซับซ้อนที่อยู่แดนพม่า

    ค่ำคืนฟ้าโปร่งใส ดวงดาวเจิดจรัสเต็มท้องฟ้า ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น เราก็ต้องรีบเข้าเต็นท์เพื่อเตรียมตัวตื่นเช้า เพื่อชมทะเลหมอกและความงามก่อนฟ้าสาง ซึ่งเราต้องตั้งเวลาปลุกจากโทรศัพท์มือถือ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสที่สำคัญๆ

    ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ เราต้องรีบตื่นขึ้นมาก่อนที่พระอาทิตย์จะขับแสงจากขอบฟ้า ช่วงเวลาสำคัญที่เราได้แสงสีอันสวยงามจับขอบฟ้า ขณะเดียวกันที่ผืนทะเลหมอกสีขาวกำลังก่อตัวอยู่ก้นหุบเขา อันหมายถึงแหล่งขุนน้ำ ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผืนดินและก่อตัวเป็นผืนทะเลหมอกขึ้นมา

    พลังแสงสีที่จับผืนฟ้าได้แปรเปลี่ยนจากน้ำเงินเข้ม พร้อมขับแสงสีเหลืองทองจากเส้นขอบฟ้าในตำแหน่งพระอาทิตย์ขึ้น แนวทะเลหมอกสีขาวที่จับตัวนิ่งทอดยาวตามร่องหุบลำน้ำเมยมีฉากหลังที่เป็นปราการขุนเขาน้อยใหญ่เรียงรายเติมแต่งให้ภาพที่เห็นอยู่ข้างหน้าทีความงดงามยิ่งขึ้น

    มุมภาพทะเลหมอกที่มีความกว้างประมาณ 180 องศา มองไปทางไหนก็สวยไปหมด จังหวะแสงสี องค์ประกอบกลุ่มทะเลหมอกและแนวเทือกเขา จะเป็นมุมมองที่เราเลือกบันทึกภาพไว้อย่างต่อเนื่อง พระอาทิตย์โผล่ขึ้นขอบฟ้าเยื้องออกไปทางด้านซ้ายลึกไปทางตอนบนของหุบน้ำเมย

    สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ ม่อนปุยหมอก
    บทบันทึกความงดงามธรรมชาติของผืนทะเลหมอกในโมงยามเช้าในดินแดนดอยในอุทยานแห่งชาติแม่เมย กระแสความนิยมก็กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่เลือนหายไปเป็นสิบปี วันนี้ไม่เพียงแค่ม่อนพูนสุดา ม่อนครูบาใส หรือม่อนกิ่งลม ยังมีม่อนปุยหมอกเป็นกระแสที่มาแรงในรอบปีที่ป่านมา วันข้างหน้าม่อนปุยหมอกก็คงเป็นมนต์เสน่ห์สำหรับเรียกคนให้กลับมาเยือนดินแดนที่มีตำนานแห่งนี้อีกครั้ง



    การเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวม่อนปุยหมอก
    จากแม่สอดแล้วเดินทางต่อไปยัง อ.ท่าสองยาง โดยใช้เส้นทางหลวงสายแม่สอด-แม่สะเรียง จนมาถึงทางแยกบ้านแม่สลิด จะมีทางแยกขวาไปยังบ้านแม่ระเมิง จะผ่านอุทยานแห่งชาติแม่เมยสามารถติดต่อหาเช่ารถได้ที่แม่สอด จะมีสองแถวแม่สอด-ท่าสองยาง

    หรือจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวก จากกรุงเทพฯ-ตาก ก่อนถึง จ.ตาก  จะแยกซ้ายไปตามทางหลวง 105 ไปแม่สอด เมื่อถึงแม่สอดจากนั้นก็ใช้ทางหลวงสาย 105 แม่สอด-ท่าสองยาง-แม่สะเรียง

    เมื่อถึงบ้านแม่สลิดจะมีทางหลวงสาย 1267 ขึ้นไปยังอุทยานแห่งชาติแม่เมย-บ้านแม่ระเมิง

    การติดต่อไปสถานที่ท่องเที่ยวม่อนปุยหมอก
    อุทยานแห่งชาติแม่เมย โทร.055-576452-3 (ที่ทำการอุทยานฯ) และ 08-5732-2532 (หน่วยฯ ถ้ำแม่อุสุ) ถ้าโทร.เบอร์สำนักงานไม่ติด ก็ให้โทรเข้าเบอร์หน่วยถ้ำแม่อุสุ สามารถฝากข้อความถึงกันได้
  • ผาแดง สถานที่ท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์

    Posted: 2010-09-17 13:41:06 UTC+07:00
    สำหรับนักนิยมไพรที่เดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ต่างยกย่องเส้นทางหลวงหมายเข 12 ว่าเป็นถนนที่มีวิวทิวทัศน์ที่วิเศษที่สุด เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ให้แวะชมตลอดเส้นทาง เช่นเดียวกับจุดชมวิวผาแดง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง ที่หลายคนไม่เคยพลาดชม เพราะนี่คือหน้าผาที่ถอดแบบมาจากผาหล่มสัก สวยงามไม่แพ้บนยอดภูกระดึงเลยทีเดียว

    หากคุณเดินทางมาจากตัวเมืองเพชรบูรณ์แต่เช้า ขับตามทางหลวงหมายเลข 12 ผ่านอำเภอหล่มสัก ข้ามสะพานพ่อขุนผาเมืองมาไม่ไกลถึงผาแดงตอนสายๆ สามารถจัดโปรแกรมท่องเที่ยวที่นี่ได้ภายในวันเดียว เส้นทางเข้าไปจุดชมวิวผาแดงนั้นไม่ยากเกินไป รถขึ้นเกือบถึง จากนั้นเดินเท้าต่อไปอีกเพียง 200 เมตร

    สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ ผาแดง

    สมัยก่อนนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาชมวิวบนผาแดง นิยมมาดูทิวทัศน์ของป่าเปลี่ยนสีในเขตเทือกเขาน้ำหนาว ลักษณะเด่นของผาแดงเป็นชะง่อนหินยื่นออกไปในอากาศ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 746 เมตร เมื่อขึ้นไปยืนอยู่บนหน้าผานี้จะมองเห็นทิวทัศน์ของผืนป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดงได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นผืนป่ารอยต่อระหว่างอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว มองเห็นทางหลวงหมายเลข 12 ตัดลัดเลาะผืนป่าเป็นแนวโค้งอย่างสวยงาม หากวันไหนโชคดีฟ้าเปิดจะมองเห็นได้ไกลถึงยอดเขาค้อเลยทีเดียว

    นอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามในช่วงกลางวันแล้ว ที่จุดชมวิวผาแดงยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่งดงามอีกแห่งหนึ่งด้วย หากใครที่มาชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ผานี้ต้องนำไฟฉายติดตัวมาด้วย นอกจากนี้ใตเขตรักษาพันธุ์ฯ ยังเป็นแหล่งกล้วยไม้ป่าหลากสีสันให้คุณได้ชมความงามของธรรมชาติเป็นของแถม วันนี้คุณอาจพักแรมกางเต็นท์นอนที่นี่ ซึ่งมีลานกางเต็นท์ให้บริการอยู่บริเวณที่ทำการเขตนั่นเอง หรือจะขับรถไปเที่ยวต่อที่น้ำหนาวก็ได้

    หากคุณเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวช่วงบ่ายที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 12 ทางไปจังหวัดขอนแก่นจะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้คุณได้แวะชมก่อนค่ำ เริ่มต้นที่จุดชมทิวทัสน์ผาหงษ์ อยู่บริเวณ กม.ที่ 39 ถัดไปเป็นจุดชมวิวภูค้อ อยู่บริเวณ กม.ที่ 46 เลยไปอีกไม่ไกลคือป่าสนดงแปก อยู่บริเวณ กม.ที่ 49 แต่ต้องเดินเท้าเข้าไปชม ระยะทาง 5 กิโลเมตร

    หากค่ำเสียก่อนก็เข้าที่ไปสถานที่พักที่อุทยานฯ น้ำหนาวก่อนแล้วจึงมาเที่ยวในวันรุ่งขึ้น หากเมื่อคืนคุณพักที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง สายๆ วันนี้เลือกเอาว่าจะขับรถไปเที่ยวไหนระหว่างเขาค้อ หรืออุทยานแห่งชาติน้ำหนาว หรือจะข้ามไปจังหวัดพิษณุโลก เที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าก็ได้

    แต่หากคุณจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ผ่านทางจังหวัดขอนแก่นให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 ซึ่งจะมีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้ขับรถแวะเที่ยวหลายจุด ตั้งแต่จุดชมวิวถ้ำผาหงษ์ จุดชมวิวภูค้อ เที่ยวชมสวนสนดงแปก ไปชมสวนสนภูกุ่มข้าว ก่อนจะตรงเข้าขอนแก่นและขับรถกลับกรุงเทพฯ

    ส่วนคุณๆ ที่พักที่น้ำหนาว สายๆ วันนี้มีโปรแกรมที่น่าสนใจให้เลือกเที่ยว หากเมื่อวานยังไม่ได้ไปเที่ยวสวนสนดงแปก วันนี้เตรียมน้ำและข้าวกล่องไปเดินป่าชมดงสนสองใบที่สวนสนดงแปก ปิกนิกกลางป่า กลับออกมาบ่ายนิดๆ ค่อยขับรถกลับเข้าขอนแก่น หากมีเวลาเหลือจะขับรถเข้าไปเที่ยวชมสวนสนภูกุ่มข้าวอีกสักนิดก็ได้ ซึ่งดงสนที่ภูกุ่มข้าวจะเป็นสนสามใบ แตกต่างจากสวนสนดงแปกซึ่งเป็นสนสองใบ

    บ่ายแก่ๆ ไปนอนพักอีกคืนที่ตัวเมืองขอนแก่น หรือจะตีรถยาวกลับเข้ากรุงเทพฯ เลยก็ได้

    ชมวิวผาแดง-เที่ยวต่อที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เนื่องจากผาแดงอยู่ในเส้นทางหลวงหมายเลข 12 จึงสามารถจัดโปรแกรมแวะเที่ยวน้ำหนาวได้ ซึ่งจะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะชมรายทางหลายแห่ง โปรแกรมนี้เที่ยวสบายๆ แบบ 2 วัน 1 คืน เลือกนอนที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง หรือมานอนที่น้ำหนาว ส่วนใครมีเวลามากกว่านั้นจะค้างที่น้ำหนาวสัก 2 คืน ก็ได้ อีกวันไปเที่ยวน้ำตกทรายทอง และน้ำตกเหวทรายแล้วค่อยเดินทางกลับ

    ติดต่อขอข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวผาแดง
    บริเวณที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง มีบริการลานกางเต็นท์และห้องสุขา แต่เนื่องจากยังไม่มีร้านค้าและร้านอาหารให้บริการ เรื่องอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ นักท่องเที่ยวต้องเตรียมมาเอง รวมถึงอุปกรณ์ในการกางเต็นท์พักแรมด้วย หรือคุณอาจมาเที่ยวชมวิวผาแดงแล้วขับรถไปค้างแรมที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ก็เป็นทางเลือกที่สะดวกกว่า

    - เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง ตู้ ปณ. 7 อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ 61170
    นอกจานี้บริเวณใกล้ๆ กับจุดชมวิวผาแดง ยังมีที่พักสไตล์รีสอร์ทของเอกชนเปิดให้บริการคุณอย่างสะดวกสบาย โดยที่คุณไม่ต้องขับรถไปไกลถึงอุทยานฯ น้ำหนาว อีกทั้งยังสะดวกสบายไม่ต้องยุ่งยากในการเตรียมอุปกรณ์สำหรับการแค้มปิ้งด้วย
    - บ้านไร่ทอฝัน โทรศัพท์ 08 1039 0350, 08 9194 9444

    การเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวผาแดง
    ผาแดงตั้งอยู่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง ริมทางหลวงหมายเลข 12 จากอำเภอหล่มสัก ขับรถตามทางหลวงหมายเลข 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) จนถึงบริเวณกิโลเมตรที่ 18.5 ขับข้ามสะพานพ่อขุนผาเมืองตรงไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายเข้าสู่ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ อีก 3 กิโลเมตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น