ผลข้างเคียงจากการกิน Acnotin เพื่อรักษาสิว
- ปาก คอ จมูก ตา ผิวแห้ง เป็นอาการเบื้องต้นที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด
- ผมร่วงมากกว่าปกติ
- มีอาการซึมเศร้า หลังจากหยุดยา แต่มีส่วนน้อยที่เป็น
- มีผลต่อการทำงานของตับ และไขมันในเลือด
- กรณีหญิงท้องห้ามกินเด็ดขาด เพราะยาอาจจะมีผลทำให้ลูกในท้องพิการได้
สิ่งที่สำคัญในการกินยา Acnotin เพื่อรักษาสิวนั้นจะต้องมีการกินยาอย่างต่อเนื่อง ในปริมาณและระยะเวลาที่กำหนดไว้ หรือที่เรียกว่า "กินให้ครบโดส" แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าโดสที่เหมาะสมกับเราเป็นเท่าไร
การคำนวณโดสเมื่อต้องกินยา Acnotin
การคำนวณนี้เป็นการคำนวณแบบคร่าวๆเท่านั้นนะครับ เพราะการคำนวณโดสที่ถูกต้องควรให้หมอซึ่งมีความเชี่ยวชาญคำนวณให้จะดีที่สุด เพราะหากผิดพลาดไปอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้ ซึ่งโดสโดยประมาณนั้นอยู่ที่ 120 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ถ้าผมหนัก 50 กิโลกรัม ก็เอา 120 X 50 = 6,000 มิลลิกรัม Acnotin 1 เม็ดสมมุติที่ 20 มิลลิกรัม ก็จะต้องกินยา Acnotin อย่างต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นการกินยารักษาสิวที่ยาวนานมาก แต่ถ้าไม่อยากกินนานก็สามารถเพิ่มปริมาณต่อวันเข้าไปได้ แต่จะต้องให้แพทย์เป็นคนตัดสินใจว่าเราควรจะทำหรือไม่ เพราะมันค่อนข้างจะส่งผลต่อร่างกายมากกว่าการกินครั้งละน้อยๆ
กินยา Acnotin ช่วยลดสิวยังไงบ้าง
- ช่วยลดความมันบนหน้า ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันได้น้อยลง เมื่อหน้ามันน้อยลงโอกาสการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเกิดการอุดตันของรูขุมขนก็น้อยลง
- ลดแบคทีเรีย P.Acne ทำให้ลดการอักเสบ และการเกิดสิวได้ดี
- ช่วยให้สิวลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็มีโอกาสที่สิวจะกลับมาใหม่ได้ในเวลา 1-3 ปีแล้วแต่คนด้วย
วิธีกินยา Acnotin รักษาสิวที่ถูกต้อง
- ให้กิน Acnotin หลังอาหารทันที กินวันละ 1 เม็ดหรือตามโดสที่กำหนด จะกินหลังอาหารมื้อไหนก็ได้ มื้อที่ดีที่สุดน่าจะเป็นมื้อเย็น เพราะเป็นมื้อสุดท้ายก่อนที่เราจะพักผ่อน
- อย่ากินนมพร้อมกับ Acnotin เพราะนมจะไปขัดขวางการดูดซึมตัวยาของร่างกาย ถ้าต้องกินให้กินหลังจากกินยาไปแล้ว 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
ยา Acnotin เป็นยารักษาสิวตัวท้ายๆที่เราจะคิดถึง ด้วยผลค้างเคียงที่มาก และการกินยาที่ต้องกินอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นไม่ควรที่จะไปซื้อยามากินด้วยตัวเอง ควรจะให้หมอเป็นผู้สั่งยาให้เท่านั้น เพราะหมอจะดูอาการสิวของเราว่าควรมี่จะกิน Acnotin หรือไม่ แล้วถ้าต้องกินกินเท่าไรถึงจะช่วยให้การรักษาสิวเป็นผลดีมากที่สุด โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยรวม ดังนั้นก่อนที่เราจะตัดสินใจอะไรลงไป ควรทำอย่างมีสตินะครับ เพราะผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่คุ้มค่าเลยก็ได้